สัมปฏิจฉันนจิต สันตีรณจิต เป็นวิถีจิตหรือไม่ เป็นชาติอะไร


    เพราะฉะนั้น เมื่อจักขุวิญญาณดับ สัมปฏิจฉันนะรับสิ่งที่จักขุวิญญาณเห็นอารมณ์เดียวกัน เป็นวิถีจิตหรือไม่ เป็น สัมปฏิจฉันนะเป็นชาติอะไร ชาติวิบาก นี่คือกรรมทั้งหมดใครไปทำได้ ใครคิดว่าใครจะทำอะไรได้ ให้ทราบเลยว่าไม่มีตัวตน ไม่มีเรา มีแต่ธรรม และธรรมแต่ละอย่างก็เกิดขึ้นทำกิจการงานหน้าที่ของธรรมนั้นๆ จะเป็นเราทำได้อย่างไร แม้ขณะจิตเดียวก็ไม่มีเรา เพราะฉะนั้นสัมปฏิจฉันนะก็เป็นวิบากจิตซึ่งเกิดเพราะอะไรเป็นปัจจัย กรรมเป็นปัจจัย เราก็เริ่มเข้าใจ "กัมมปัจจัย" แล้ว

    ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นวิบากต้องเป็นผลของกัมมปัจจัย และถ้าเป็นกัมมปัจจัยให้ผลก็คือให้ผลเป็นวิบากจิต จักขุวิญญาณเป็นวิบากดับไปแล้ว กรรมก็ยังทำให้สัมปฏิจฉันนะเกิดต่อเป็นวิบาก ก็ยังไม่หมดเรื่องของวิบาก กรรมก็ยังทำให้สันตีรณะซึ่งเป็นวิบากเกิดต่อจากสัมปฏิจฉันนะแล้วดับไป หลังจากนั้นไม่ใช่วิบากแล้ว วิบากมีเท่านี้เอง ใครอยากได้วิบากอะไรมากๆ ก็แค่นี้คือจักขุวิญญาณ สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะ นี่คือวิบาก อยากจะได้วิบากทางตาก็ขณะนี้เองที่เห็น แต่ไม่ใช่จักขุวิญญาณเท่านั้น ยังมีสัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะด้วย ทางหูที่ได้ยินเป็นวิบาก ก็ต้องมีโสตวิญญาณ สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะที่เป็นวิบาก จบเรื่องของวิบากทางทวารนั้นๆ

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 90


    หมายเลข 7330
    22 ม.ค. 2567