อารมณ์


    ผู้ฟัง ยังสงสัยว่าจะแยกอารมณ์ปรากฏได้ ไม่เข้าใจคำว่า “อารมณ์”

    ท่านอาจารย์ “อารัมมณะ” หรือ “อาลัมพนะ” หมายความถึงสิ่งที่จิตรู้ เสียงในป่าขณะนี้มีใครได้ยินไหม แต่เสียงเกิดแล้วเพราะเหตุปัจจัย ขณะนั้นเสียงเป็นอารมณ์หรือไม่

    ผู้ฟัง ขณะนั้นเสียงไม่ได้เป็นอารมณ์

    ท่านอาจารย์ เพราะว่าเกิดแล้วดับแล้วโดยที่ว่าเสียงนั้นไม่ได้ปรากฏกับจิตได้ยิน เพราะฉะนั้นสภาพของจิตที่เกิดขึ้นแต่ละขณะจะรู้อารมณ์อย่างหนึ่งๆ ทีละหนึ่งอย่าง จะรู้ ๒ อย่างไม่ได้เลย แล้วก็แล้วแต่ว่าจิตนั้นเป็นจิตประเภทไหนก็รู้เฉพาะอารมณ์นั้น เช่น จิตเห็นจะมีเสียงเป็นอารมณ์ไม่ได้ ขณะใดที่เสียงปรากฏ เช่นในขณะนี้ แสดงว่ามีจิตกำลังได้ยิน เสียงนั้นจึงปรากฏ เพราะฉะนั้นเวลาที่จิตเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดเมื่อใด ขณะใด ภพใด ภูมิใดก็ตาม เมื่อเป็นจิตซึ่งเป็นธาตุรู้หรือสภาพรู้ก็ต้องมีสิ่งที่ถูกจิตรู้ หรือจิตนั้นกำลังรู้สิ่งนั้นในขณะนั้น จะมีจิตเกิดขึ้นโดยไม่มีอารมณ์คือสิ่งที่จิตกำลังรู้นั้น เป็นไปไม่ได้เลย เพราะเหตุว่าจิตเป็นสภาพรู้ และต้องรู้สิ่งหนึ่งสิ่งใด มิฉะนั้นจะเรียกว่าสภาพรู้ไม่ได้ แต่ว่าบางกาละอารมณ์ของจิตก็ไม่ได้ปรากฏเช่นในขณะที่หลับสนิท มีใครรู้อารมณ์อะไรไหมขณะที่กำลังหลับสนิทแต่จิตมีหรือไม่ ต้องมี เพราะฉะนั้นขณะนั้นต้องมีอารมณ์ด้วย แต่ว่าอารมณ์นั้นไม่ปรากฏ เพราะเหตุว่าไม่ได้อาศัยทวารหนึ่งทวารใด ไม่ได้อาศัยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นจิตที่เกิดขึ้นสืบต่อจากปฏิสนธิดำรงภพชาติระหว่างที่ยังไม่ตายแล้วก็หลับไป เมื่อคืนนี้ก็หลับมาแล้ว ตอนเย็นๆ ค่ำๆ ก็หลับอีก เพราะฉะนั้นวันหนึ่งๆ ก็คือจิตที่เป็นวิถีจิต และไม่ใช่วิถีจิตนั่นเอง สลับกันอย่างนี้โดยที่ว่าถ้าไม่รู้ก็เป็นเรา แต่ความจริงก็เป็นจิตแต่ละขณะซึ่งเกิดขึ้นทำกิจการงานนั้นๆ ซึ่งใครก็บังคับบัญชาไม่ได้ เราจะรู้หรือไม่รู้ อารมณ์จะปรากฏหรือไม่ปรากฏ แต่ข้อสำคัญก็คือต้องมีเหตุผลที่ตายตัวมั่นคง คือ จิตเป็นสภาพรู้ เมื่อเกิดขึ้นขณะใดต้องมีอารมณ์คือมีสิ่งที่จิตนั้นกำลังรู้

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 97


    หมายเลข 7485
    22 ม.ค. 2567