เผาหญ้าในพระวิหารเชตวัน - ไม่เดือดร้อนในสภาพธรรมที่เป็นอนัตตา
ที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า เวลาที่มีใครเผาหญ้าในพระเชตวันมหาวิหาร แต่ละท่านในพระวิหารเชตะวันก็ไม่เดือดร้อน เพราะเขาไม่ได้เผาตัวท่าน แต่ว่าเพียงเผาหญ้าในพระวิหารเชตวัน ฉันใด“รูป” ธาตุดินที่หญ้าในพระวิหารเชตวันเป็นแต่เพียงธาตุดิน ฉันใด “รูปแข็ง” ซึ่งทุกท่านมีอยู่ และยึดถือว่าเป็นของท่านก็เป็นแต่เพียงธาตุดิน ฉันนั้นเหมือนกัน ต้องประจักษ์จริงๆว่า ดิน คือ ธาตุที่แข็ง สภาพที่แข็ง ไม่ว่าจะที่ร่างกายหรือที่หญ้า ก็เป็นเพียงธาตุชนิดหนึ่ง ซึ่งเสมอเหมือนกัน คือ เป็นเพียงธาตุดิน ถ้าเป็นเพียงธาตุดินแล้ว ท่านจะเดือดร้อนไหมคะ กับดินที่กาย ที่เคยยึดถือว่าของเรา ถ้ารู้จริงๆ และการอบรมเจริญสติปัฏฐานนี้ เป็นการอบรมจนกระทั่งปัญญาประจักษ์จริงๆในสภาพที่เป็นอนัตตา เพราะฉะนั้นความรู้สึกจะเหมือนกับการเผาหญ้าที่พระวิหารเชตวัน ฉันใด การที่ธาตุดินนี้จะมีอาการเกิดขึ้นและดับไปก็เหมือนกัน ฉันนั้น ไม่มีความต่างกันเลย เพราะเป็นเพียงธาตุชนิดหนึ่ง ซึ่งเกิดดับ จึงจะไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา
เพราะฉะนั้นถ้าปัญญายังไม่รู้ลักษณะของปรมัตถธรรมจริงๆ แล้วก็ยังไม่ประจักษ์ในความเกิดขึ้นและดับไปจริงๆ จะกล่าวว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตนก็เป็นแต่เพียงเงา หรือเป็นแต่เพียงคำพูด เป็นแต่เพียงคำซึ่งพูดตาม แต่แท้ที่จริงแล้ว ในความรู้สึกจริงๆ ยังไม่เป็นอย่างนั้น แต่การอบรมเจริญปัญญาจะต้องชะล้างการยึดถือสภาพธรรมที่เคยยึดถือว่าเป็นเรา โดยการรู้แจ้ง โดยการประจักษ์จริงๆในสภาพของธรรมแต่ละลักษณะ โดยความเป็นธาตุแต่ละลักษณะ ซึ่งไม่ใช่เรา