พอไหมที่เพียงรู้สึกว่าบางวันไม่มีอะไรเป็นของๆเราเลย


    บางท่านอาจจะมีความรู้สึกว่า บางวันรู้สึกว่า เหมือนกับว่าไม่มีของอะไร ที่เป็นของเราเลย ทำไมถึงไม่รู้สึกอย่างนี้มาก่อน ใช่ไหมคะ แต่ก่อนเคยยึดถือทุกอย่างว่าเป็นของเราและเป็นเรา แต่อยู่ๆวันหนึ่งฟังธรรมบ่อยๆ มากๆเข้า ก็เกิดนึกขึ้นมาว่า ไม่เห็นมีอะไรที่จะเป็นของๆเราสักอย่างเดียว ไม่น่าที่จะหลงยึดถือว่าเป็นของๆเราเลยสักอย่างเดียว พอไหมคะอย่างนั้นน่ะ ไม่มีทางที่จะดับกิเลสเลยแต่ถ้าไม่รู้ก็คิดว่า คงได้ปัญญามากแล้ว ใกล้ต่อความที่จะได้เป็นพระอริยบุคคล เพราะว่าแต่ก่อนนี้ไม่เคยนึกอย่างนี้ ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้ ไม่เคยแม้จะเกิดความรู้สึกว่า ไม่น่าจะยึดถือสิ่งที่มีอยู่ว่า เป็นของเราเลย ดูเหมือนเป็นความอัศจรรย์ที่จะเกิดคิดอย่างนั้นขึ้น

    แต่ให้ทราบว่า นั่นไม่ใช่หนทางที่จะดับกิเลส เพราะเหตุว่าลักษณะของนามธรรมซึ่งเป็นธาตุรู้ เป็นสภาพรู้ที่กำลังเห็น กำลังได้ยิน กำลังได้กลิ่น กำลังลิ้มรส กำลังรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก เป็นนามธรรมอย่างไร เมื่อยังไม่ได้อบรมเจริญปัญญาที่จะเข้าใกล้อรรถ คือ ลักษณะที่แท้จริงของสภาพที่เป็นเพียงสภาพรู้ ธาตุรู้ ก็ไม่มีทางที่จะประจักษ์การเกิดดับ ความไม่เที่ยงของสภาพนามธรรมและรูปธรรม ซึ่งกำลังเกิดดับ ซึ่งเป็นโลก เพราะเกิดขึ้นแล้วดับไป

    เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะคิดอย่างไร อย่าหลงคิดว่า นั่นเป็นปัญญา ซึ่งสามารถที่จะละกิเลส เพราะเหตุว่าถ้าสติไม่เกิด ไม่ระลึก ไม่รู้ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ ไม่พิจารณาจนกระทั่งสามารถที่จะรู้ความต่างกันของรูปธรรมและนามธรรมจริงๆ และถ้าลักษณะที่เป็นนามธรรมและรูปธรรมยังไม่ปรากฏทางมโนทวารทีละลักษณะ ซึ่งเป็นการประจักษ์แจ้งชัดเจน ไม่มีทางที่ปัญญาจะเจริญขึ้น จนกระทั่งสามารถที่จะรู้ว่า สภาพธรรมทั้งหลายเป็นเพียงโลกซึ่งว่างเปล่า สูญจากการที่จะยึดถือว่าเป็นตัวตน หรือว่าเป็นสัตว์ บุคคล


    หมายเลข 7514
    21 ส.ค. 2558