วิถีจิตที่เกิดทางทวารเดียวกัน รู้อารมณ์เดียวกันทั้งหมดหรือไม่


    ผู้ฟัง ทางจักขุทวาร เมื่อรู้อารมณ์ วิถีจิตทั้งหมดทางจักขุทวารก็ต้องเป็นอารมณ์เดียวกัน

    ท่านอาจารย์ ถูกต้อง นั่นคือวาระหนึ่งๆ ไม่เปลี่ยนอารมณ์เลย

    ผู้ฟัง แล้วเมื่อสิ้นสุดวาระดังกล่าว เป็นภวังค์ก่อน สิ้นสุดกระแสภวังค์ก็เป็นภวังคุปัจเฉทะ

    ท่านอาจารย์ และก็มโนทวาราวัชชนจิตก็เกิดขึ้น

    ผู้ฟัง แล้ววิถีจิตทางมโนทวารดังกล่าวจะรู้อารมณ์เดียวกับทวารวิถีที่ดับไป

    ท่านอาจารย์ จริงหรือไม่ พิสูจน์ได้ในขณะนี้ ทางจักขุทวารวิถีเห็นอะไร แล้วก็ทางมโนทวารวิถีก็ต้องมีอารมณ์นั้น ไม่เห็นว่าไม่มีเลยก็สืบต่ออย่างรวดเร็ว โดยที่ว่าไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าจริงๆ แล้วขณะที่กำลังรู้ว่าสิ่งที่กำลังเห็นเป็นอะไรไม่ใช่หน้าที่ของจักขุทวารวิถีจิตเลย เป็นทางมโนทวารวิถีทั้งหมด เพราะฉะนั้นวันหนึ่งๆ ลองคิดถึงความจริงว่าขณะที่เป็นภวังคจิตมืดหรือสว่าง

    ผู้ฟัง มืด

    ท่านอาจารย์ มืดสนิทไหม ต้องสนิท เพราะเหตุว่าไม่มีอะไรปรากฏเลย แต่เมื่อมีรูปกระทบปสาทรูป เป็นปัจจัยให้ปัญจทวารวิถีทางหนึ่งทางใดเกิดขึ้น สั้นมาก ชั่วขณะนิดเดียว ต่อจากนั้นภวังค์ก็มืดอีก มโนทวารวิถีก็มืดอีก เพราะฉะนั้นจึงอุปมาว่า กาม คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เหมือนฟ้าแลบ สั้นแสนสั้น แล้วต่อจากนั้นก็เป็นวิถีจิตทางมโนทวาร วันหนึ่งๆ เราอยู่ในความคิดจากสิ่งที่ปรากฏทั้งๆ ที่สิ่งนั้นก็ดับไปแล้ว เมื่อเช้านี้เห็นอะไร บ้าน ยังมีอยู่ใช่ไหมตอนนี้ แต่จริงๆ แล้วไม่มีเลย หมดแล้ว แต่เราจะสะสมทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย เป็นเรื่องเป็นราวทางใจ เหมือนกับว่ายังมีสิ่งนั้นตลอดเวลา นี่คือการที่ใจเราสามารถที่จะคิดนึกได้ทุกอย่างแม้สิ่งนั้นไม่ปรากฏเลย ถามว่าคุณสุกัญญามีฟันไหม

    ผู้ฟัง มี

    ท่านอาจารย์ เมื่อไหร่

    ผู้ฟัง พูดได้ทันที ก็เป็นการจดจำอยู่ในใจตลอดเวลาว่าเรามีฟัน

    ท่านอาจารย์ นี่คือทางใจ ขณะนี้เห็นฟันหรือไม่

    ผู้ฟัง ไม่เห็น

    ท่านอาจารย์ ไม่เห็น แต่บอกว่ามี นี่ก็แสดงให้เห็นว่าทางใจ จำทุกอย่างทุกเรื่อง ตลอดชีวิตจำได้หมดเลย ตอนเด็กๆ เกิดมาทำอะไรบ้าง พอจำความได้ ไปจนกระทั่งถึงสูงอายุแล้วก็ยังจำได้ เรื่องราวต่างๆ ทั้งๆ ที่เรื่องต่างๆ ก็ไม่มี และสิ่งต่างๆ ที่ได้เคยพบเคยเห็น จริงๆ เกิดขึ้นปรากฏเหมือนฟ้าแลบแล้วไม่เหลือเลย ไม่มีอะไรสักรูปเดียวที่จะยังอยู่เพราะว่ารูปทุกรูปมีอายุเท่ากับจิตเกิดดับ ๑๗ ขณะเท่านั้นเอง เท่ากับอยู่ในความว่างเปล่าของความคิดนึก ความทรงจำ ว่ามีสิ่งต่างๆ เป็นอัตตสัญญา แต่ความจริงไม่มีอะไรเหลือเลย

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 97


    หมายเลข 7558
    22 ม.ค. 2567