ประโยชน์ที่ทรงแสดงเรื่องของจิต เพื่อเกื้อกูลให้สติเกิดพิจารณาจิต


    ข้อความต่อไป พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

    จิตชื่อว่า “จรณะ” แม้นั้นแล เธอทั้งหลาย คิดแล้วด้วยจิตนั่นแหละ จิตเป็นเครื่องคิดนั้นแหละ แม้นั้น เพราะเหตุนั้น เธอทั้งหลายพึงพิจารณาจิตของตนเนืองๆ ว่า จิตนี้เศร้าหมองด้วยราคะ โทสะ โมหะ สิ้นกาลนาน. สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิตเศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว.

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่พิจารณาเห็นหมู่สัตว์อื่นแม้เพียงหมู่หนึ่ง ซึ่งวิจิตรเหมือนอย่างสัตว์ดิรัจฉานทั้งหลายนี้เลย

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์ดิรัจฉานแม้เหล่านี้แลคิดแล้วด้วยจิตนั่นแหละ. จิตนั่นแหละวิจิตรกว่าสัตว์ดิรัจฉานแม้เหล่านั้น เพราะเหตุนั้น เธอทั้งหลายพึงพิจารณาจิตของตนเนืองๆ ว่า จิตนี้เศร้าหมองแล้วด้วยราคะ โทสะ โมหะ สิ้นกาลนาน. สัตว์ทั้งหลายย่อมเศร้าหมอง เพราะจิต

    เศร้าหมอง สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว

    มีประโยชน์อะไรไหมคะ ถ้าจะไม่พิจารณาจิต แล้วแสดงแต่เรื่องของจิตโดยละเอียดมากมาย แต่ว่าไม่พิจารณา

    เพราะฉะนั้นประโยชน์ที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเรื่องของจิต ก็เพื่อที่จะให้พิจารณาจิต ด้วยคำเทศนา ด้วยอนุศาสนีย์มากมายประการต่างๆ ก็เพื่อเกื้อกูลให้สติเกิดระลึกรู้ลักษณะของจิต ซึ่งเป็นสภาพรู้ เป็นธาตุรู้ เป็นนามธรรม


    หมายเลข 7588
    21 ส.ค. 2558