อเหตุกของปุถุชน กับ อเหตุกของพระอรหันต์ต่างกันอย่างไร
ผู้ฟัง เรียนถามว่าอเหตุกะของคนธรรมดากับอเหตุกะของพระอรหันต์ต่างกันอย่างไร
ท่านอาจารย์ อเหตุกกิริยาจิตของปุถุชนมีได้ ๒ แต่อเหตุกกิริยาจิตสำหรับพระอรหันต์มีได้ทั้ง ๓ นี่กล่าวถึงบุคคล แต่ถ้ากล่าวถึงสภาพของจิต อเหตุกกิริยาไม่ได้เป็นของใครเลย เกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็มีสภาพเป็นอเหตุกกิริยา แม้ว่าจะเป็นอเหตุกกิริยาจิตของพระอรหันต์ อาวัชชนจิตคือปัญจทวาราวัชชนจิตก็ประกอบด้วยเจตสิกเท่ากัน และก็จะทำกิจตามสมควรว่าถ้าเป็นปัญจทวาราวัชชนจิต ไม่ว่าจะเป็นของพระอรหันต์หรือของใครก็ตามก็ต้องเกิดทางปัญจทวาร จะเกิดทางมโนทวารไม่ได้
ผู้ฟัง อเหตุกะของคนธรรมดากับอเหตุกะของพระอรหันต์เหมือนกันด้วย ต่างกันด้วย แต่ของพระอรหันต์หมดอนุสัย แต่คนธรรมดายังมีอยู่
ท่านอาจารย์ ถูกต้อง แล้วถ้าเป็นพระอริยบุคคลก็ดับอนุสัยไปตามลำดับขั้น
ผู้ฟัง จนกว่าจะเป็นพระอรหันต์ถึงจะหมดอนุสัย แม้ว่าจะเป็นอเหตุกกิริยาเหมือนกันก็ตาม
ท่านอาจารย์ พระอรหันต์มีจิต ๒ ชาติ ลืมไม่ได้เลย เหตุผลก็คือว่าขณะเห็นเป็นวิบาก ขณะได้ยินเป็นวิบาก พระอรหันต์ก็เห็น ก็ได้ยิน จะให้ไม่มีวิบากจิตได้อย่างไร แล้วก็ยังรวมวิบากอื่นๆ ที่เรากล่าวถึงแล้ว เช่น สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะก็เป็นวิบาก ปฏิสนธิ ภวังค์ จุติ เมื่อมีความเข้าใจแล้ว ความเข้าใจที่เป็นสภาพธรรมเปลี่ยนสภาพธรรมนั้นไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นพระอรหันต์มีจิต ๒ ชาติ คือ วิบากจิตกับกิริยาจิต ไม่มีกุศลเลยหลังจากที่เป็นพระอรหันต์แล้วเพราะว่าดับอนุสัยหมด ส่วนที่เรายังมีกุศลบ้างอกุศลบ้าง ก็เพราะเรามีการสะสมทางฝ่ายกุศล และ ฝ่ายอกุศล ยังไม่ได้ดับทางฝ่ายอกุศลเลย เพราะฉะนั้นก็มีปัจจัยที่จะให้อกุศลจิตเกิด
สำหรับพระอรหันต์เมื่อดับอกุศล ดับอนุสัย ไม่มีปัจจัยที่จะให้อกุศลใดๆ เกิดเลย กุศลก็ไม่เกิดเหมือนกัน เพราะว่าได้ดับพืชเชื้อของอนุสัยหมดแล้ว เพราะฉะนั้นพระอรหันต์จึงไม่มีอกุศลจิต และกุศลจิต แต่ต้องมีวิบากจิต แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่พระอรหันต์นั้น กุศลใดๆ ทั้งหมดที่ได้กระทำไม่ใช่กิริยาจิตเพราะเหตุว่ายังเป็นเหตุที่จะให้เกิดวิบากข้างหน้าได้ แต่สำหรับพระอรหันต์กุศลทั้งหลายที่เกิดกับปุถุชนอันทำให้เกิดวิบากนั้นไม่มีอีกแล้วในพระอรหันต์ เพราะว่าขณะนั้นเป็นกิริยาจิต จึงกล่าวว่ากิริยาจิตไม่เป็นเหตุให้เกิดผลข้างหน้า หลังจากปรินิพพานแล้วก็ไม่มีจิต เจตสิกเกิดอีกเลย แต่พระอรหันต์เมื่อบรรลุคุณธรรมเป็นพระอรหันต์แล้วก็จะมีจิตเพียง ๒ ชาติซึ่งไม่เปลี่ยน อย่างไรๆ ก็เปลี่ยนไม่ได้ จะบอกว่าเหลือชาติเดียวก็ไม่ได้ต้องมีทั้งวิบากจิต และกิริยาจิต
ที่มา ...