ที่แบ่งเป็นวาระต่างๆ ใช้อะไรแบ่ง
ผู้ฟัง ที่ท่านแบ่งเป็นชวนวาระ โมฆวาระ โวฏฐัพพนวาระ หรือตทาลัมพวาระ ท่านใช้อะไรในการแบ่งตรงนี้ การที่จิตรู้อารมณ์ขณะนั้นๆ
ท่านอาจารย์ พระธรรมที่ทรงแสดงๆ จากการประจักษ์แจ้งไม่ใช่คิดแบ่ง สภาพธรรมขณะนั้นเป็นอย่างไรก็แสดงตามความเป็นจริงอย่างนั้นว่า ถ้าวาระนั้นรูปดับก่อนที่ตทาลัมพนจิตจะเกิดเพราะว่ารูปดับไปแล้ว ตทาลัมพนจิตที่จะรู้อารมณ์นั้นหลังจากชวนะก็เกิดไม่ได้
ผู้ฟัง แต่รูปก็สามารถจะดับก่อนที่ไม่ใช่ ๔ วาระที่กล่าวได้ใช่ไหม
ท่านอาจารย์ ได้ ก็ไม่มีวิถีจิตที่จะไปรู้รูปนั้น
ผู้ฟัง สมมติว่ารูปไปดับที่สัมปฏิจฉันนะ เรียกว่า สัมปฏิจฉันนวาระ หรือไม่
ท่านอาจารย์ ไม่มีเลยที่จะเป็นอย่างนั้น จากการทรงตรัสรู้ว่าต้องถึงโวฏฐัพพนะหรือชวนะหรือตทาลัมพนะ ตามกระแสของกำลังของวาระของจิตที่จะเกิดสืบต่อกัน
ผู้ฟัง ก็จะดับได้ ๓ ประเภทนี้ ใช่ไหม
ท่านอาจารย์ มีกำลังพอที่จะเป็นวิถีจิตได้เมื่อถึงโวฏฐัพพนะ หรือถึงชวนะ หรือถึงตทาลัมพนะ
ขณะนี้วาระไหน
ผู้ฟัง ไม่ทราบ
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นไม่ใช่สิ่งที่เราจะรู้ได้ แต่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้
ที่มา ...