เห็น ได้ยินแล้ว เป็นโลภมูลจิต?
ผู้ฟัง ในคราวก่อนที่อาจารย์กล่าวว่า ขณะเห็นครั้งหนึ่ง จิตก็คล้อยตามอารมณ์ไป เมื่อคล้อยตามอารมณ์ไป ก็เป็นโลภะ หรือได้ยิน ได้เห็น ลิ้มรส ถูกต้องสัมผัส ก็โดยนัยเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นแล้ว จิตของคนแต่ละคนก็เป็นโลภะทั้งวันเลยซิครับ
ท่านอาจารย์ ถ้ากุศลจิตไม่เกิด จะเป็นจิตอะไรคะ ถ้าไม่พูดถึงจิตเห็น จิตได้ยิน จิตได้กลิ่น จิตลิ้มรส จิตกระทบสัมผัส และถ้าขณะนั้นความรู้สึกเป็นอุเบกขา ไม่ใช่ความรู้สึกซึ่งโทมนัส เสียใจ หรือไม่แช่มชื่น ขณะนั้นจะเป็นจิตอะไร นี่แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าสภาพธรรมจะเกิดอยู่เป็นประจำที่ตัวเอง ที่จิตของตัวเอง ก็ยังไม่รู้ตามความเป็นจริงว่า จิตนั้นๆ เป็นจิตประเภทไหน จนกว่าจะได้ศึกษาพระธรรมโดยละเอียด ขณะใดที่ไม่เป็นกุศล ขณะนั้นต้องเป็นอกุศล ถ้ากล่าวถึงจิตเฉพาะ ๒ ชาติ คือ กุศลจิตหรืออกุศลจิต
เพราะฉะนั้นก็จะต้องทราบว่า ขณะใดที่จิตไม่เป็นไปในทาน ไม่เป็นไปในศีล ไม่เป็นไปในความสงบ ไม่ใช่สติที่ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ขณะนั้นจะไม่ใช่อกุศลจิตได้ไหม ในเมื่อไม่ใช่กุศล ก็ต้องเป็นอกุศลประเภทหนึ่งประเภทใด คือ ถ้าไม่เป็นโลภมูลจิต ก็เป็นโทสมูลจิต หรือเป็นโมหมูลจิต