สะสมสิ่งที่ไม่ดี ถ้าไม่รู้แจ้ง
ผู้ฟัง ฉะนั้นเราต้องมีการสะสมสิ่งที่ไม่ดีไปเรื่อยๆ ว่าเรายังไม่ถึงจุดที่ จะรู้แจ้งได้จริงๆ ใช่ไหม
ท่านอาจารย์ ถ้าไม่มีคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เราจะออกจากกรง ของกิเลส และสังสารวัฏฏ์ไม่ได้เลย เพราะว่ามีความไม่รู้เสมอเรื่อยๆ บ่อยๆ และก็มีกิเลสนาๆ ชนิดสะสมไป เพิ่มพูนขึ้น เพราะฉะนั้นการที่มีโอกาสได้ฟัง พระธรรมก็ลองเทียบดู ถ้าเห็นประโยชน์จริงๆ ว่า ทุกอย่างเพียงปรากฏแล้ว หมดไป ไม่ว่าจะเป็นทางตา สิ่งที่เห็นขณะนี้ หรือเสียง หรือกลิ่น หรือรส จิต ทุกขณะเกิดแล้วดับไปไม่กลับมาอีกเลย ไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ จากชาติ หนึ่งไปอีกชาติหนึ่ง ไม่มีอะไร นอกจากเพิ่มเติมอกุศล และความไม่รู้ กับการที่ เห็นประโยชน์จากการที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรม จะเอาอะไรมาแลกยอมไหม ให้กลับไม่รู้อย่างเดิม ไม่ได้ฟังพระธรรมเลย ไม่เข้าใจอะไรเลย ก็คงไม่มีใคร คิดว่าจะยอมแลกกับสิ่งนั้น เพราะว่าสิ่งนั้นก็คือสิ่งซึ่งเกิดดับ และไม่สามารถ จะเป็นของเราหรือเป็นเราได้ เพราะว่าแม้เราก็ไม่มี มีแต่สภาพธรรมที่ใช้คำว่า “ปรมัตถธรรม” ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงที่มีลักษณะที่ใครก็เปลี่ยน แปลงไม่ได้จึงเป็นปรมัตถธรรมแต่ละอย่างแต่ละลักษณะ ซึ่งจิตก็เป็นจิตไม่ใช่ เจตสิก ไม่ใช่รูป เจตสิกก็ไม่ใช่จิต ไม่ใช่รูป รูปก็ไม่ใช่จิต ไม่ใช่เจตสิก ก็เป็น สภาพธรรมทั้งหมดในวันหนึ่งๆ ในแต่ละภพแต่ละชาติ
ที่มา ...