เริ่มจากความรู้ความเข้าใจก่อน


    คุณศุกล ขออนุญาตเรียนถามท่านอาจารย์เกี่ยวกับข้อปฏิบัติในพระพุทธศาสนา เช่น สมถะ หรือสมาธิ และวิปัสสนา จะสงเคราะห์ในข้อปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาได้ไหมครับ เพราะว่าปกติ แล้ว เท่าที่มีโอกาสพบปะเพื่อนธรรม ก็มักจะพูดว่า ไปปฏิบัติธรรมๆ เมื่อมีโอกาสสอบถามก็ได้ความว่า ก็คือไปนั่ง แล้วปฏิบัติตามที่มีผู้สอน เพราะฉะนั้นก็มีข้อปฏิบัติที่น่าจะเป็น ๒ ลักษณะ คือ ไปนั่งปฏิบัติที่เป็นสมาธิ กับการปฏิบัติที่เป็นแนวทางเจริญวิปัสสนา ขอกราบเรียนท่านอาจารย์ให้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น

    ท่านอาจารย์ ไม่ทราบท่านผู้อื่นสนใจในเรื่องนี้หรือเปล่าคะ สนใจนะคะ ก็เป็นชีวิตประจำวัน ข้อสำคัญที่สุดก็คือ ก่อนอื่นต้องทราบว่า พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพื่อประโยชน์แก่ทุกชีวิตในชีวิตประจำวันทุกขณะ

    อันนี้ก่อน เพราะว่าถ้าเป็นเรื่องสมถภาวนา วิปัสสนาภาวนาเป็นเรื่องที่สูงมาก เป็นเรื่องของผู้มีปัญญา เห็นโทษของกิเลสของตนเอง เพราะฉะนั้นก่อนที่จะถึงสมถะหรือวิปัสสนาก็ตาม ผู้นั้นต้องเป็นผู้เห็นกิเลสในวันหนึ่งๆ ว่า มีมากแค่ไหนเสียก่อน

    อย่างเวลาที่เราตื่นนอนมา บางคนก็บอกว่า เขาไม่มีกิเลสเลย เขาไม่อยากได้อะไรของใคร เขาก็ไม่โกรธใครด้วย

    นี่แสดงให้เห็นว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผู้นั้นเจริญสมถะก็ไม่ได้ เจริญวิปัสสนาก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้ตัวเองว่า มีกิเลสตั้งแต่ลืมตาตื่น เพราะฉะนั้นผู้ที่จะเจริญความสงบจากกิเลส ต้องเห็นโทษ และต้องรู้จักกิเลสจริงๆ อย่างเวลาที่ตื่นมา เพียงลืมตาขึ้นมา เราอาจจะไม่รู้ว่า เรามีความต้องการเกิดขึ้นทันทีที่เราตื่น บางคนก็อาจจะอยากฟังเพลง เอื้อมมือไปเปิดวิทยุ บางคนก็รีบเข้าไปในห้องน้ำ ทำกิจธุระต่างๆ

    ทั้งหมดนั้น ถ้าขณะใดไม่เป็นกุศล ไม่เป็นไปในทาน ไม่เป็นไปในศีล ไม่เป็นไปในปัญญาที่รู้สภาพของจิตที่สงบว่า ต่างกับจิตที่ไม่สงบ ไม่มีปัญญาที่รู้ว่า สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และทรงแสดงว่าอย่างไร ถ้าไม่มีปัญญาอย่างนี้ ไม่พ้นจากโลภะในวันหนึ่งๆ เพราะเหตุว่าความต้องการในวันหนึ่งมีหลายระดับ ความต้องการที่เรามี จนกระทั่งเราสังเกตเห็นอย่างเวลาที่เราไปตามห้างสรรพสินค้า หรือไปตลาด หรือเห็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด แล้วรู้สึกว่าสวย อยากจะได้ ชอบ เป็นสิ่งที่เรากำลังต้องการ ในขณะนั้นถ้าไม่พิจารณาเราก็อาจจะไม่เห็นว่า เป็นโลภะ หรือเป็นความต้องการ แล้ว แต่ก่อนนั้นอีก ก็ยังมีความต้องการในชีวิตประจำวันเล็กๆ น้อยๆ เรื่อยมา ซึ่งผู้ที่จะเจริญความสงบ ก่อนอื่นต้องเห็นโทษของกิเลสของตนเอง แล้วเวลาที่ภาษาไทยเราใช้คำภาษาบาลี เราไม่ได้เรียนจริงๆ เพราะฉะนั้นเรามักจะนึกเอาเองว่า คงจะหมายความว่าอย่างนี้ หรือคงจะหมายความว่าอย่างนั้น แม้แต่คำว่า “สมถะ” และ “วิปัสสนา” ยังไม่ทันรู้ความหมายจริงๆ เลย ก็จะทำ แล้วลองคิดดูว่า ยังไม่รู้อะไรเลยทั้งสิ้น แล้วจะทำ แล้วจะเป็นสิ่งที่เราต้องการให้เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร เพราะสมถะ ก็ยังไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร หมายความว่าอะไร วิปัสสนาก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร แล้วจะไปทำอะไร แล้วจะได้ผลตรงกับที่ทำหรือเปล่า เพราะว่าเรายังไม่มีความรู้เลย


    หมายเลข 7956
    22 ส.ค. 2567