เห็นจริงๆ เห็นอะไร
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นอยากจะถามเพื่อให้ตอบต่อไป เพื่อจะได้เจริญปัญญาขึ้นว่า เห็นอะไร ตอบให้ตรงเลยค่ะว่าเห็นอะไร
ผู้ฟัง เห็นทุกๆ ท่านกำลังนั่งฟังธรรม
ท่านอาจารย์ เห็นทุกๆ ท่านกำลังนั่งฟังธรรมนะคะ ทุกคนจะตอบเหมือนกันหมดเลย แต่ความจริงเห็นสี หรือเห็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตา จะเห็นเกินกว่านี้ไม่ได้เลย ใช่ไหมคะ ถ้าดับไฟมืดหมด ทั้งๆ ที่คนอยู่ในห้องนี้ เห็นไหมคะ ไม่เห็น
เพราะฉะนั้นเห็นจริงๆ เพียงเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตาเท่านั้นเอง
ถ้าตาอยู่ตรงนี้ ข้างหลังก็มีแสงสว่าง ข้างหลังก็มีสีตั้งเยอะ แต่ไม่มากระทบตรงจักขุปสาท เพราะฉะนั้นการเห็นก็ไม่เกิด สีสันวัณณะต้องมากระทบกับจักขุปสาท การเห็นจึงเกิดเห็นขึ้นมาได้อย่างเร็วมาก เพราะฉะนั้นเห็นจริงๆ เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา
นี่คือความรู้ถูกต้อง และหลังจากเห็นแล้วจึงคิด บางคนของหาย อย่างเข็มเล่มเล็กๆ ทั้งๆ ที่อยู่ตรงหน้าไม่เห็น ก็ทำไมเข็มอยู่ตรงนี้ แต่ไม่เห็น เพราะไม่ได้คิดนึกถึงสัณฐานของเข็มที่กำลังปรากฏ แต่พอหาเจอ บอกอยู่ตรงนี้เอง เพราะว่าขณะนั้นนึกถึงรูปร่างอันนี้ เพราะฉะนั้นที่เรากำลังนั่ง แล้วเราก็ไม่เห็นใครสักคนหนึ่ง เพราะเรากำลังคิดเรื่องอื่น เป็นไปได้ไหมคะ ได้
เพราะฉะนั้นแสดงให้เห็นว่า สีเป็นอย่างหนึ่ง ความคิดเป็นอีกอย่างหนึ่ง แต่พอมารวมกัน คือ คิดถึงสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา เราก็บอกว่า เราเห็นคน ทั้งๆ ที่ขณะนั้นเราคิดถึงรูปร่างสีสันของสิ่งที่ปรากฏ เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้ว เรามีอัตตสัญญา ความทรงจำยึดมั่นในสิ่งที่เห็น ในความจำของเราว่า ต้องเป็นคนที่เราเห็น แต่แท้ที่จริงแล้ว ถ้าจะวิจัยวิเคราะห์ออกไปอย่างละเอียดแล้ว เห็นเพียงสิ่งที่ปรากฏทางตาแล้วนึกถึงสิ่งนั้นเท่านั้นเอง ถ้าไม่นึกก็ไม่เห็น ทั้งๆ ที่สิ่งนั้นก็อยู่ตรงหน้า ก็ยังไม่เห็นได้
เพราะฉะนั้นเดี๋ยวนี้ก็พอจะเกิดปัญญาขึ้นมาอีกนิดหนึ่งที่รู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว เราว่าเราเห็นคน ความจริงเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา