ต้องค่อยๆรู้ขึ้น
คุณบุษบงรำไพ การสติปัฏฐาน ถ้าสมมติว่ามีสติเกิดขึ้นรู้ว่า เราโกรธ หรือเรารัก รู้ในขณะนั้น แต่ยังไม่รู้ว่า เป็นรูปธรรมหรือนามธรรม อย่างนี้ก็ยังไม่เรียกว่า สติปัฏฐานเกิดแล้วใช่ไหมคะ
ท่านอาจารย์ หมายความว่า เรามีความเข้าใจว่า โทสะมีจริง โลภะมีจริง ขณะใดที่โลภะเกิด มีการระลึกในลักษณะ แต่ปัญญายังไม่รู้ชัด เพราะฉะนั้นเรารู้ว่าขณะใดหลงลืมสติ ขณะใดมีสติ ขณะใดปัญญายังไม่เพิ่มขึ้น ขณะใดปัญญาค่อยๆ รู้ขึ้น
เพราะฉะนั้นผู้นั้นเป็นผู้ที่ตรง เป็นผู้รู้ตัวเอง ไม่ต้องไปอาศัยคนอื่นเขามาบอกว่าเราได้ปัญญาขั้นนั้นขั้นนี้ เพราะนั่นไม่จริง คนอื่นจะมารู้จิตใจของเราไม่ได้ รู้ปัญญาของเราไม่ได้ แต่เราเองเรารู้ว่า ขณะนั้นสติเกิด หรือหลงลืมสติ และเมื่อสติเกิดแล้ว ปัญญารู้หรือยัง ถ้าปัญญายังไม่รู้ ก็ค่อยๆ พิจารณาจนกว่าปัญญาจะรู้ขึ้น
คุณบุษบงรำไพ ถ้าปัญญารู้แล้ว เราจะรู้เลยหรือว่า ขณะนั้นเป็นนามธรรมหรือรูปธรรม
ท่านอาจารย์ ถ้าเรารู้ จะกลายเป็นความไม่รู้ไม่ได้ แต่กว่าจะรู้ ต้องค่อยๆ รู้ขึ้น
เหมือนความชำนาญ ตอนแรกๆ จะให้ชำนาญทันทีไม่ได้ ต้องค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละน้อย จนกระทั่งในที่สุดพอเราชำนาญแล้ว ก็ไม่มีการสงสัยเลย