เป็นกุศลจริงๆหรือเพียงคิด
คุณศุกล กระผมขออ่านคำถามแทน มีคำถามทั้งหมดอยู่ ๔ ข้อ
ข้อ ๑ การสวดมนต์ไหว้พระ หลังจากสวดจบแล้ว คิดว่าสิ่งนี้เป็นกุศล เราสามารถกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับได้เลยหรือไม่
ท่านอาจารย์ คิดเท่านั้นหรือคะ หรือทราบแน่ว่าเป็นกุศลจริงๆ หรือเพียงคิดว่าเป็นกุศล คือ เรื่องธรรมเป็นเรื่องต้องคิด ต้องไตร่ตรอง เพราะเหตุว่าเป็นปัญญาของเราเอง พระพุทธศาสนาไม่ได้สอนให้เรางมงายหรือให้เชื่อตาม ถ้าคนบอกว่าถูก คนบอกว่าดี คนบอกว่าจริง แต่เราเองไม่ได้พิจารณาว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า อันนั้นก็ไม่ใช่ผู้มีเหตุผล แต่ถ้ามีเหตุผลตามธรรมแล้ว ต้องพิจารณาว่าการสวดมนต์ไหว้พระเป็นกุศล หรือเพียงคิดว่าเป็นกุศล ถ้าคิดก็ยังไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเป็นกุศล จะทราบได้ว่า ขณะใดก็ตามที่ไม่มีโลภะ ไม่มีโทสะ ไม่มีโมหะ ที่ว่าเป็นกุศล คือเป็นจิตใจที่ดีงาม
เพราะฉะนั้นเราก็จะพิจารณาจิตใจของเราละเอียดขึ้นว่า เราโลภไหม เราโกรธไหม เราริษยาไหม เราหวังร้ายต่อคนอื่นไหม ถ้าขณะเหล่านั้นแล้วก็ต้องเป็นอกุศล แต่เวลาที่น้อมระลึกถึงพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วกราบพระสวดมนต์ จะเห็นว่าต้องเป็นกุศลจิตมาก เพราะเหตุว่าวันหนึ่งๆ เราจะไม่ค่อยนึกถึงพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เวลาที่เราสนทนาธรรมกันหรือแม้ในขณะนี้ เราก็จะค่อยๆ เห็นพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ในขณะนี้เราก็ไม่ได้กราบพระ เราก็ไม่ได้สวดมนต์ แต่จิตก็เป็นกุศล
เพราะฉะนั้นในขณะที่เรากราบพระ แสดงให้เห็นว่า กายก็มีกิริยาอาการที่อ่อนน้อม แล้วใจในขณะนั้นก็ระลึกถึงพระคุณตามภาษาบาลี แต่จริงๆ แล้วไม่ต้องตามภาษาบาลีก็ได้ หรือผู้รู้ภาษาบาลี เวลาที่นึกถึงคำที่สวด เช่น นโม ตัสสะ ภวคโต อรหโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ในขณะนี้ก็น้อมระลึกถึงความหมาย นโม ตัสสะ ก็คือถวายความนอบน้อม ภวคโต อรหโต สัมมาสัมพุทธัสสะ แด่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งแม้แต่คำว่า “พระอรหันต์” เราก็ต้องรู้ความหมายว่า เป็นผู้ที่หมดกิเลส “สัมมาสัมพุทธเจ้า” ไม่ใช่พระอรหันต์ธรรมดา แต่เป็นพระอรหันต์ผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง แล้วก็ทรงแสดงพระธรรมเพื่อประโยชน์แก่สัตว์โลก จึงได้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า