วิถีจิต - ไม่ใช่วิถีจิต
เมื่อกี้กำลังพูดถึงการแบ่งจิตออกเป็น ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ จิตที่รู้อารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ทางรู้อารมณ์มี ๖ ทาง เป็นวิถีจิตซึ่งต้องอาศัยทวารตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
เพราะฉะนั้นเวลาที่เรากำลังนอนหลับสนิท ยังไม่ตาย จิตก็เกิดดับสืบต่อดำรงภพชาติทำภวังคกิจ ที่เราใช้คำว่า ภวังค์ ภวังค์ อย่างบางคนง่วง เราบอกว่ากำลังจะเข้าภวังค์ หรือกำลังเป็นภวังค์ แต่ให้ทราบความหมายจริงๆ ก็คือว่า ขณะที่เป็นภวังค์ จิตจะไม่รู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่คิดนึก ไม่ฝัน เพราะฉะนั้นเป็นช่วงขณะที่กำลังหลับสนิท ขณะนั้นเป็นจิตที่ไม่ใช่วิถีจิต เพราะเหตุว่าไม่ได้อาศัยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่คิด ไม่รับรู้อารมณ์ใดๆ ทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นให้ทราบว่า แบ่งชีวิตของเราเป็น ๒ ส่วน คือ จิตที่เป็นวิถีจิตกับจิตที่ไม่ใช่วิถีจิต วิธีที่จะรู้จิตในชีวิตประจำวันของเราก็คือว่า แบ่งจิตออกเสียก่อนเป็นส่วนใหญ่ๆ ๒ ส่วน คือ จิตที่ไม่ใช่วิถีจิต กับจิตที่เป็นวิถีจิต
ถ้าเรารู้เรื่องตัวเราเองมากๆ เราก็จะได้ทราบว่า เป็นความจริงอย่างนั้น เพราะเหตุว่าจิตที่ไม่รับรู้อารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จะมี ๓ ขณะ คือ ขณะเกิด ปฏิสนธิ ชั่วขณะแรกที่ปฏิสนธิ ไม่เห็นโลกนี้เลย ไม่รู้เลยว่า โลกนี้เป็นอย่างนี้ มีแสง สี มีกลิ่น มีรส อย่างนี้ เราเกิดที่ไหน ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ และยังไม่เห็นโลก เพราะว่าโลกนี้ยังไม่ปรากฏ
เพราะฉะนั้นขณะแรกเป็นจิตที่ไม่ใช่วิถีจิต และจิตที่ไม่ใช่วิถีจิตอีก คือ ขณะที่เป็นภวังค์ ดำรงภพชาติหลับสนิท ขณะนั้นก็ไม่ใช่วิถีจิต อีกขณะหนึ่ง คือ ขณะจุติ คือ ขณะสิ้นชีวิต
เพราะฉะนั้นมีจิต ๓ ประเภทที่ไม่ใช่วิถีจิต คือ ขณะปฏิสนธิ เกิดขึ้นขณะแรก และขณะที่เป็นภวังค์ ดำรงภพชาติระหว่างที่ยังไม่เห็น ยังไม่ได้ยิน ยังไม่คิดนึกใดๆ ทั้งสิ้น และขณะสุดท้าย คือ ขณะที่จะจากโลกนี้ ก็เป็นจิตที่ไม่ใช่วิถีจิต นอกจากนั้นแล้วเป็นวิถีจิตทั้งหมด คือ จะต้องอาศัยทางหนึ่งทางใดเกิดขึ้น เห็น หรือได้ยิน หรือได้กลิ่น หรือลิ้มรส รู้สิ่งที่กำลังกระทบสัมผัส หรือคิดนึก