ไม่มีปัญญาดับกิเลสไม่ได้


    คุณศุกล ขอรบกวนเรียนถามท่านอาจารย์ ช่วยแนะวิธีประยุกต์หลักธรรมให้มาใช้กับชีวิตการทำงานประจำวัน ให้มีความสุข ความสงบ ราบรื่นด้วยค่ะ

    ท่านอาจารย์ ต้องการวิธี เหมือนยาค่ะ เอาไปรับประทาน แต่ว่าให้ทราบว่า ถ้ายังมีกิเลสอยู่ ที่จะมีความสุขราบรื่นทั้งนอกบ้านในบ้าน เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และกิเลสทั้งหมดจะลดน้อยลงก็ต่อเมื่อมีปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาแล้ว ไม่มีทางเลย ซึ่งใครจะหายา หาวิธี หาอะไรก็ตามแต่ ที่คิดว่าตนเองจะเป็นสุข

    เพราะฉะนั้นแทนที่จะคิดว่า จะเอาธรรมข้อใด หรืออะไรก็ตาม อบรมเจริญปัญญา แล้วก็จะประพฤติปฏิบัติตามธรรมได้มากขึ้น เพราะว่าขณะนี้ถ้าจะถามคนทุกคนว่า ความโลภดีไหม ตอบว่าไงคะ ไม่ดี ละเสีย ละได้ไหม บอกให้ละเฉยๆ ก็บอกแล้วว่าไม่ดี ก็อย่ามีซิ ได้ไหมคะ ไม่ได้เพราะอะไร เพราะไม่มีปัญญาที่จะเห็นโทษของโลภะจริงๆ โทสะดีไหม ทุกคนก็บอกว่าไม่ดี เมื่อไม่ดีก็อย่าเกิดซิ ละเสีย แต่ตราบใดที่ยังไม่มีปัญญา ก็ละโทสะไม่ได้ เพราะฉะนั้นอกุศลทั้งหมดเป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งนั้น แต่ถ้าไม่มีปัญญา แล้วไม่มีใครสามารถไปยับยั้งอกุศลไม่ให้เกิดไม่ได้

    บางคนก็ชื่นชมวิธีของนักจิตวิทยา นักปรัชญา ที่พยายามใช้คำพูดหาหนทางพิจารณาเหตุการณ์ต่างๆ และประเล้าประโลมให้จิตใจสบายขึ้น แต่ไม่ใช่หนทางดับกิเลส อย่างไรเกิดโกรธ เกิดโลภ เกิดหลงมากหรือน้อยวันใดวันหนึ่ง แต่พระธรรมที่มีพระผู้มีพระภาคทรงแสดงสามารถดับกิเลสได้ ไม่เกิดอีกเลย

    เพราะฉะนั้นทุกคนต้องการเพียง ไม่ให้มีโลภะเดี๋ยวเดียว ไม่ให้มีโทสะเดี๋ยวเดียว หรือต้องการดับอกุศลทั้งหมด ถ้าจะดับอกุศลทั้งหมด ทางอื่นไม่มีเลย นอกจากจะอบรมเจริญปัญญา แล้วก็ไม่ใช่ปัญญาตามความคิดด้วย ต้องเป็นปัญญาที่เกิดจากการศึกษาเข้าใจพระธรรมจริงๆ จึงจะเป็นปัญญาได้


    หมายเลข 8019
    24 ส.ค. 2567