โลภะไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้โดยง่าย


    ผู้ฟัง อยากแล้วไม่ทำ ที่ท่านอาจารย์พูดเมื่อกี้นี้ ดิฉันคิดสงสัยว่า มีความอยาก ๒ อย่าง อย่างเช่นดิฉันกำลังฟังวิทยุอยู่ อยากจะฟังธรรมที่ท่านอาจารย์สุจินต์บรรยายให้จบ แต่เผอิญไก่ที่อยู่ในเตามันไหม้ กลิ่นโชยแล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องละการฟัง เพื่อจะไปดูแลไก่อบนั้น กับการอยากอีกอย่างหนึ่ง ถ้าอยากจะไปดิสโก้ แต่แม่ห้ามไว้ ก็เลยละความอยากนั้น คือ อยากจะทำแต่ไม่ได้ทำ ๒ อย่างนี้ต่างกันอย่างไรคะ

    ท่านอาจารย์ พอไม่ได้ทำก็อยากอย่างอื่น คือ พ้นความอยากไปไม่ได้เลย ไม่ได้ทำอย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะหมดอยาก ก็อยากอย่างอื่นต่อไป เช่นกำลังทำอย่างนี้อยู่ พอมีไก่อบ ก็มีความอยากแทนกุศลจิต ถูกไหมคะ

    คนที่จะศึกษาธรรม แล้วเจริญในธรรม ต้องเป็นผู้ตรง ตรงต่อสภาพธรรมจริงๆ กุศลคือกุศล อกุศลคืออกุศล ถูกคือถูก ผิดคือผิด มิฉะนั้นแล้วเอาผิดออกไม่ได้ เพราะไม่รู้ตรงว่า สิ่งนั้นผิด ถ้าโลภะเป็นสิ่งที่เห็นง่าย เข้าใจง่าย พระผู้มีพระภาคก็คงจะไม่ทรงอุทานหลังจากที่ได้ตรัสรู้ว่า ได้พบนายช่างเรือน คือ สภาพธรรมนี้แหละที่พาท่องเที่ยววนเวียนไปในสังสารวัฏฏ์ และก็มองไม่เห็นด้วย อยู่ประจำในใจตั้งแต่เกิดจนตาย หลังจากที่ปฏิสนธิขณะแรกที่จิตเกิด ชวนะเกิดพอใจในภพชาติทันที เป็นความรู้สึกที่เกิดต่อจากขณะที่เกิดขึ้นในโลกนี้เลย บางคนจะจากโลกนี้ก็ยังไปด้วยความติดข้อง ประจำอยู่ตลอด ทิ้งยาก


    หมายเลข 8027
    24 ส.ค. 2567