โอกาสโลก สังขารโลก สัตวโลก
ผู้ฟัง คำว่า “โลก” ที่แบ่งเป็น ๓ โลก มีโอกาสโลก สังขารโลก สัตวโลก โอกาสโลก ก็หมายความถึงโลกจักรวาลที่เรายืนอยู่ ก็เป็นโลก
ท่านอาจารย์ ค่ะ พระจันทร์ พระอาทิตย์ ดาวอังคาร ดาวต่างๆ
ผู้ฟัง เกิดมาจากดิน น้ำ ไฟ ลม สังขารโลก คือสิ่งที่เกิดขึ้น
ท่านอาจารย์ สภาพที่ปรุงแต่งเกิดดับ
ผู้ฟัง และสุดท้าย
ท่านอาจารย์ สัตวโลก
ผู้ฟัง สัตวโลก หมายความถึงเราเห็น เราได้ยิน ได้กลิ่น
ท่านอาจารย์ พวกมนุษย์ พวกเทวดา พวกสัตว์เดรัจฉาน เพราะว่าสัตวโลกเป็นที่ดูกรรม และผลของกรรม บาป และบุญ และผลของบาป และบุญ เพราะเหตุว่าโต๊ะ พวกนี้ทำบาป ทำบุญอะไรไม่ได้เลย แต่สัตวโลก เราสามารถเห็นจากพฤติกรรม การกระทำ คือ เห็นบาป เห็นบุญ เราบอกได้ว่า คนนี้ทำบุญ คนนั้นทำบาป ใช่ไหมคะ หรือว่า สัตวโลกเป็นที่ดูผลของบุญ และผลของบาป เกิดมาง่อยเปลี้ย หรือพิการตั้งแต่กำเนิด เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เราก็รู้ว่าเป็นผลของอกุศลกรรม หรือว่าชีวิตในวันหนึ่งๆ ที่เราเป็นอยู่ บางครั้งก็ได้รับผลของอกุศลกรรม แม้แต่การรับประทานอาหารที่อร่อย บางทีก็กระทบกรวดหรือทรายเม็ดเล็กๆ ในอาหาร หรือพริกที่เผ็ดจัด ขณะนั้นก็ไม่ได้หวังว่าจะเกิดอกุศลวิบากอย่างนั้น แต่ก็มีเหตุปัจจัยที่จะให้ได้รับกระทบสิ่งที่ไม่น่าพอใจ ก็เป็นอกุศลวิบาก
เพราะฉะนั้นถ้าเราจะย่อยเหตุการณ์ซึ่งเราคิดว่า เป็นเหตุการณ์ใหญ่มาเป็นขณะจิตแต่ละขณะว่า ขณะนี้กำลังเป็นโลกทางตา หรือขณะนี้กำลังเป็นโลกทางหู หรือขณะที่กำลังนั่งรับประทานอาหาร เป็นโลกรับประทานอาหาร แต่ย่อยลงไปแล้วก็เป็นโลกทางตาที่เห็นอาหาร เป็นโลกทางลิ้นที่กำลังลิ้มรสอาหาร นี่ก็แยกได้ว่า ขณะใดเป็นวิบาก ผลของกรรมอะไร
เพราะฉะนั้นสัตวโลกก็เป็นที่ดูบุญ และบาป และผลของบุญ และบาป
ผู้ฟัง ครับ เพราะฉะนั้นโลกุตตระ ก็หมายความว่า
ท่านอาจารย์ พ้นจากโลกทั้งหมดเลย เหนือโลก