อกาลิโกหมายถึงโลกุตรธรรมเท่านั้น


    ผู้ฟัง ขอเรียนถามท่านอาจารย์ที่ว่า ท่านพระสารีบุตรตรัสรู้ในวันมาฆบูชา

    ท่านอาจารย์ พระสารีบุตรบรรลุอรหันต์วันมาฆบูชา

    ผู้ฟัง คือวันมาฆบูชามีความหมายว่า พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูปมาประชุม หมายความว่าพระสารีบุตรท่านบรรลุในวันนั้น

    ท่านอาจารย์ ท่านถวายอยู่งานพัดเวลาที่หลานชายไปเฝ้า ทีฆนขปริพาชก พระผู้มีพระภาคก็ทรงแสดงธรรมกับทีฆนขปริพาชก ในขณะที่ทรงแสดงธรรมกับทีฆนขปริพาชก และท่านพระสารีบุตรยืนถวายงานพัดนั่นเอง พระธรรมที่ทรงแสดง ทีฆนขปริพาชกก็ได้เข้าใจธรรม และพระสารีบุตรก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในวันนั้น

    ผู้ฟัง อย่างคำว่า “สันทิฏฐิโก” ฟังจากท่านอาจารย์ แปลว่า รู้สติปัฏฐาน ใช่ไหมคะ

    ท่านอาจารย์ “สันทิฏฐิโก” เห็นได้ รู้ได้ด้วยตัวเอง เป็นธรรมที่เห็นได้ อย่างพูดถึงพระนิพพาน ไม่ใช่ว่าใครก็ไม่สามารถประจักษ์ เป็นธรรมที่สามารถประจักษ์แจ้งได้

    ผู้ฟัง ความหมายก็เหมือนกับการเจริญสติปัฏฐาน เพราะว่ารู้แจ้งธรรม

    ท่านอาจารย์ แน่นอนค่ะ นี่เป็นเรื่องคุณของพระธรรมซึ่งถ้าไม่เจริญสติปัฏฐาน แล้ว ไม่มีทางรู้คุณของพระธรรมได้ ที่เราสรรเสริญคุณของพระธรรม ที่จะรู้อย่างนี้ได้เพราะเหตุว่าเป็นหนทางที่ทำให้ประจักษ์พระธรรม

    ผู้ฟัง อกาลิโก คือ ไม่มีกาลเวลาคั่น ถ้ามาทางมรรค แล้วก็ต่อผลไปเลย

    ท่านอาจารย์ อันนี้ส่วนอื่นนะคะ แต่ถ้าเป็นคุณของพระธรรมรัตนะ ต้องหมายความถึงโลกุตตรธรรมเท่านั้น ถ้าพูดถึงธรรมที่เป็นสรณะ ที่เป็นรัตนะจะไม่เป็นฝ่ายอกุศล จะไม่ใช่เรื่องกุศลอื่น นอกจากเรื่องที่เป็นไปทางโลกุตตระ ที่จะรู้แจ้งอริยสัจธรรม ที่จะมีนิพพานเป็นอารมณ์

    ผู้ฟัง เอหิปัสสิโก แปลไม่ออกค่ะ

    ท่านอาจารย์ เชิญให้มาดู เป็นสิ่งที่ควรเห็น เป็นสิ่งที่ควรดู เป็นสิ่งที่ควรประจักษ์แจ้ง พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมเพื่อให้คนฟังเกิดศรัทธาที่จะได้ประพฤติปฏิบัติตาม แม้แต่พระนิพพานก็เป็นสิ่งที่มีจริงๆ แล้วก็รู้แจ้งได้

    เพราะฉะนั้นก็เป็นธรรมรัตนะ เป็นโลกุตตรธรรม เป็นธรรมที่ทุกคนสามารถเห็นได้ และเมื่อเวลาที่โสตาปัตติมรรคจิตซึ่งเป็นเหตุเกิด โสตาปัตติผลจิตเกิดสืบต่อกันเป็นอกาลิโก หมายความว่า กุศลอื่นเราต้องคอยกาลเวลา ถ้าทำบุญวันนี้ อย่าคิดว่าจะได้ผลวันนี้นะคะ บางคนก็ทำบุญปุ๊บ ก็เมื่อไรจะหายป่วยไข้ ทำไปเดี๋ยวนั้นเองก็อยากจะหายเดี๋ยวนั้น ไม่ต้องคอยกาลเวลาเลย เหมือนกับปลูกต้นมะม่วง พอใส่เมล็ดลงไป กลบดินลงไป ก็เมื่อไรจะได้รับประทานผล นี่ไม่ถูกต้องค่ะ

    เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า กุศลทั้งหลายต้องมีกาลเวลาที่จะให้ผล แล้วเราก็จะไปเปลี่ยนกาลเวลาของผลนั้นไม่ได้ด้วย


    หมายเลข 8187
    24 ส.ค. 2567