ปัจจัยของรูป


    คุณศุกล พูดถึงสมุฏฐานของรูปที่เกิด ไม่สงสัยเรื่องกรรมเป็นสมุฏฐาน จิตเป็นสมุฏฐาน แต่สงสัยเรื่องอุตุเป็นสมุฏฐาน จะมีประโยชน์อะไร ทำหน้าที่อะไรในกลุ่มของรูปนั้นๆ

    ท่านอาจารย์ คุณศุกลหมายความถึงนอกกายหรือในกาย

    คุณศุกล ถ้าจะอธิบายทั้งสองก็ได้ แต่เอาในกายก่อน แล้วเอานอกกายที่หลังครับ

    ท่านอาจารย์ เวลาที่กัมมชรูปเกิด ให้ทราบว่ามีเพียง ๙ รูปในตัวซึ่งเกิดเพราะกรรม คือ ๑. จักขุปสาท อยู่กลางตา ๒. โสตปสาท ซึ่งอยู่กลางหู ๓. ฆานปสาท ซึ่งอยู่กลางจมูกทำให้กระทบกับกลิ่น ๔. ชิวหาปสาทรูปซึ่งทำให้กระทบสัมผัสกับรส ๕. กายปสาทรูปทำให้กระทบกับสิ่งที่เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว นี่เป็นกัมมชรูป ๕ ทางก็ ๕ ทวาร ตา หู จมูก ลิ้น กาย ๕ แล้วนะคะ แล้วก็ชีวิตรูปซึ่งเกิดกับกลุ่มของรูปที่เกิดเพราะกรรมเป็นสมุฏฐาน

    นี่ก็เป็นเรื่องยาวออกไป เพราะฉะนั้นก็ตัดรูปอื่นได้ อย่างอิตถีภาวรูป ปุริสสภาวรูป พวกนี้ก็ตัดออกไปก็ได้ รูปซึ่งเกิดเพราะกรรม หทยรูป

    แต่ไม่จำเป็นต้องจำเดี๋ยวนี้ ไม่จำเป็นต้องรู้หมดเดี๋ยวนี้ แต่ควรจะใช้เข้าใจคำว่า “กัมมชรูป” เพื่อจะได้รู้ว่า กัมมชรูปเล็กแค่ไหนที่กลางตา เปลือกตาก็ไม่ใช่ตา ตาขาวก็ไม่ใช่ส่วนที่จะรับกระทบกับรูป เพราะฉะนั้นส่วนที่เป็นจักขุปสาทรูปนี่เล็กมาก และส่วนของโสตปสาทรูป ฆานปสาทรูป ชิวหาปสาทรูป กายปสาทรูปก็ล้วนแต่เล็กๆ ทั้งนั้น แต่ร่างกายของเราใหญ่โต ไม่ใช่เต็มไปด้วยจักขุปสาทรูปทั้งหมด โสตปสาทรูปทั้งหมด

    เพราะฉะนั้นอุตุที่เกิดพร้อมกับกัมมชรูป คือต้องทราบว่า รูปที่เป็นรูปใหญ่ ที่เป็นประธานมี ๔ รูป ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม เอาแค่ ๔ นี่ก่อน ธาตุไฟ คือ อุตุ เมื่อเกิดแล้วเป็นปัจจัยทำให้รูปอื่นเกิดด้วย

    เพราะฉะนั้นรูปของเราที่เจริญเติบโตมาเพราะอุตุเป็นปัจจัย เพราะฉะนั้นแล้วแต่อุตุซึ่งเกิดจากกรรมว่า อุตุนั้นจะมีขนาดไหน จะทำให้คนนี้สูงต่ำดำขาวอย่างไร เพราะว่าเป็นไปตามกรรมอีกเหมือนกัน บางคนเกิดมาก็ไม่สูงเลย บางคนรูปร่างกำลังพอดี

    นี่แสดงให้เห็นว่า อุตุที่เกิดเพราะกรรมก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รูปเกิด นี่ก็แสดงให้เห็นว่าที่รูปของเราเจริญเติบโตมาทั้งหมดไม่ใช่เพราะกัมมชรูป เพราะเหตุว่ากัมมชรูปนี่เล็กมาก นิดเดียวเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นก็ต้องมีอุตุชรูป แล้วที่จะเคลื่อนไหวไปได้ ก็เพราะมีจิตเป็นสมุฏฐานทำให้รูปนั้นเกิดแล้วก็ยกมือ เดินไป ทำอะไรได้ทุกอย่าง ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้าง ก็เรื่องของจิตตชรูป แล้วเพียงเท่านั้นก็ยังไม่พอ แม้จะมีรูปซึ่งเกิดจากกรรม แม้จะมีรูปซึ่งเกิดจากจิต แม้จะมีรูปจากอุตุ ยังต้องอาศัยอาหารที่มีโอชะอยู่ในอาหารนั้น รับประทานเข้าไปแล้วเป็นปัจจัยให้เกิดรูป

    เพราะฉะนั้นในร่างกายนี้ที่จะดำรงอยู่ได้ จะขาดอาหารไม่ได้ เพราะอาหารเป็นส่วนหนึ่งซึ่งทำให้รูปเกิด ด้วยเหตุนี้ในรูปของสัตว์บุคคล จึงมีรูปที่เกิดจากสมุฏฐานทั้ง ๔ คือ มีทั้งรูปที่เกิดจากกรรม มีทั้งรูปที่เกิดจากจิต มีทั้งรูปที่เกิดจากอุตุ และมีทั้งรูปที่เกิดจากอาหารด้วย


    หมายเลข 8223
    24 ส.ค. 2567