สุขทุกข์มาจากโลภะ


    ผู้ฟัง คิดอย่างไรถึงความทุกข์ คิดอย่างไรถึงมีความสุข ผมก็ไม่เข้าใจ

    ท่านอาจารย์ คิดดี เป็นกุศลก็สุข คิดไม่ดี เป็นอกุศลก็ทุกข์

    ผู้ฟัง คิดขึ้นมาถึงมีความสุข คิดขึ้นมาถึงมีความทุกข์หรือครับ

    ท่านอาจารย์ แต่ไม่ใช่ความรู้สึกที่เป็นเวทนา เพราะบางทีเราอาจสนุก เราอาจจะชอบ แต่ขณะนั้นเป็นอกุศล เวลาที่เราพูดเรื่องคนอื่น สนุกมาก สบาย ชอบพูดเป็นอกุศล เพราะฉะนั้นโลภะเกิดกับความรู้สึกโสมนัสก็ได้ เกิดกับความรู้สึกอุเบกขา เฉยๆ ก็ได้

    ผู้ฟัง บางครั้งถ้าเรานอนหลับสนิท บางท่านก็ฝันง่าย บางท่านก็ฝันดี พอตื่นขึ้นมาก็อยากจะฝันต่อ ...

    ท่านอาจารย์ ก็เป็นโลภะ รู้จักโลภะหรือยังคะ ฝันดีแล้วก็อยากฝันดีต่อ ก็โลภะ โลภะดีหรือไม่ดีคะ

    ผู้ฟัง เกี่ยวกับจิตไหม

    ท่านอาจารย์ แน่นอนค่ะ ถ้าไม่มีจิต เจตสิกก็เกิดไม่ได้ ความรู้สึกก็เกิดไม่ได้ ความติดข้องก็เกิดไม่ได้ มีจิตกับเจตสิก ๒ อย่าง เกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน

    ผู้ฟัง เท่าที่สนทนาธรรมมานี้ เพื่อให้เกิดความรู้กันทุกๆ คน ทีนี้สภาพธรรมอีกอย่างหนึ่ง โทษของความโกรธ โทษของโลภะ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เป็นโทษอย่างไรบ้างครับ และตอนที่เราตาย โทษจะเป็นอย่างไรบ้างครับ

    ท่านอาจารย์ เวลาที่โทสะเกิด สบายใจไหมคะ

    ผู้ฟัง ไม่สบายใจครับ

    ท่านอาจารย์ และถ้าโกรธมากๆ ก็อาจจะไปทำร้ายคนอื่นได้ไหมคะ

    ผู้ฟัง ได้ครับ

    ท่านอาจารย์ เวลาโลภะเกิด ก็มีความติดข้องต้องการ กำลังต้องการอยากจะได้ แล้วไม่ได้ หรือได้มาแล้วก็ต้องรักษาไว้อย่างดี กลัวว่าจะต้องสูญหายอีก เหนื่อยไหมคะ

    ผู้ฟัง เหนื่อยครับ

    ท่านอาจารย์ ถ้าไม่มีเลย สบายไหมคะ สมบัติที่มีมากๆ ติดไว้มากๆ ถ้าไม่มีเลย สบายไหม

    ผู้ฟัง ขอตอนที่ตายอีกทีครับ

    ท่านอาจารย์ เดี๋ยวนี้ค่ะ เรายังไม่ตาย เราก็พูดถึงโทษของโลภะ โทสะ เดี๋ยวนี้ที่ยังไม่ตาย

    ผู้ฟัง ก็ทำให้เกิดความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ โทสะเกิดมากๆ ก็ไม่สบายใจ งุ่นง่าน

    ท่านอาจารย์ เวลาที่โลภะเกิดครั้งหนึ่งก็ดับไป โทสะเกิดครั้งหนึ่งก็ดับไป แต่สะสมสืบต่อในจิตต่อๆ ไป จนกระทั่งทำให้คนเรามีอุปนิสัยต่างกัน บางคนก็โลภมาก ติดข้องมาก เห็นอะไรก็อยากได้หมด คนที่โทสะมาก เห็นอะไรก็ไม่ชอบใจ ทุกอย่างขวางหูขวางตา ไม่ถูกใจสักอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ตัวเองแต่เป็นคนอื่นก็ยังไม่ชอบ คนนั้นใส่ตุ้มหู ๒ ข้าง ๓ อัน ก็ไปไม่ชอบคนอื่นด้วย ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ตัวเอง แล้ววันหนึ่งๆ ความไม่ชอบตัวเราเองมากไหม ผมเป็นอย่างไร เล็บเป็นอย่างไร ยาวไป อะไรไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นเรื่องที่จะเกิดความไม่สบายใจ แม้ในชาตินี้ ชาติหน้าต่อไป เราก็สะสมความเป็นบุคคลอย่างนี้แหละ อัธยาศัยก็ต่างกันไป บางคนก็ตระหนี่ บางคนก็ริษยา บางคนก็โลภะมาก บางคนก็โทสะมาก นี่คือโทษของอกุศลในชาตินี้ และถ้าถึงขั้นทำอกุศลกรรม มีการฆ่าสัตว์ มีการเบียดเบียน มีทุจริตกรรม ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิ คือ ภูมิที่ไม่มีความเจริญทางธรรม ทำให้เกิดเป็นสัตว์ เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เกิดในนรกได้


    หมายเลข 8239
    24 ส.ค. 2567