สิ่งที่มีค่าของแต่ละคน ๒


    ท่านอาจารย์ สิ่งที่ทุกคนต้องการ คือ สิ่งที่มีค่าสำหรับคนนั้น คนคนอยากจะได้สิ่งที่มีค่า อะไรที่มีค่าที่ทำให้จิตใจเบิกบาน ไม่เศร้าหมอง แต่สิ่งที่มีค่า มีประโยชน์จริงๆ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือพระธรรม

    ผู้ฟัง แต่ท่านที่บวชเข้ามา ได้สละแล้ว ถ้าจะพูดไปก็เหมือนกับได้เห็นประโยชน์ของการสละทางโลกแล้ว

    ท่านอาจารย์ ในครั้งพุทธกาล ได้ฟังพระธรรมก่อน เห็นคุณค่าก่อน แล้วก็ออกบวชเป็นบรรพชิต แต่ไม่ว่าคฤหัสถ์หรือบรรพชิต ไม่ต้องกล่าวเฉพาะพระภิกษุ ผู้ที่เห็นค่าของพระธรรมเท่านั้นที่จะศึกษา

    ผู้ฟัง การจะเห็นค่า รู้สึกพูดมันง่าย

    ท่านอาจารย์ ก็ไม่รู้ก็ไม่เห็นไงคะ เมื่อไม่รู้ จะเห็นได้อย่างไร และจะรู้ได้ก็ต้องศึกษา เพราะฉะนั้นเหตุผลก็มีอยู่ แต่ไม่ยอมจับต้นชนปลายให้ตรง ใช่ไหมคะ

    ผู้ฟัง ถ้าจะพูดไปก็เหมือนกับว่า ไม่มีผู้มาจับต้นชนปลาย จะมีส่วนไหมคะ คือ ทุกๆ ท่านอยากจะรู้ แต่ว่า

    ท่านอาจารย์ แล้วทำอย่างไรถึงจะรู้คะ เราอยากรู้ แต่เราไม่เรียนหนังสือ ก ไก่ ก็ไม่มอง ฮ นกฮูกก็ไม่สนใจ แล้วจะไปอ่านได้อย่างไร

    พระคุณเจ้า อาจจะเป็นเพราะกลัวความทุกข์ของการเรียน

    ท่านอาจารย์ การเรียนไม่ให้ทุกข์เลยเจ้าค่ะ

    พระคุณเจ้า อาจจะเป็นความฝังใจที่ถูกบังคับไปเรียนตั้งแต่เด็กๆ แล้วต้องมีการสอบ กลัวการสอบ

    ท่านอาจารย์ แต่การศึกษาพระธรรมไม่ได้มีการบังคับเลย แล้วก็ไม่ต้องสอบด้วย เรียนเพื่อเข้าใจเท่านั้นเอง ฟังเพื่อเข้าใจ เพื่อมีความเห็นถูก เป็นอิสรเสรีมาก ไม่มีการบังคับให้เข้าใจด้วย เพราะว่าบังคับไม่ได้

    ผู้ฟัง ท่านอาจารย์ได้พูดถึงสิ่งที่มีค่า แต่เราไม่รู้ค่า เป็นเพราะว่า การไปแสวงหาจุดนี้

    ท่านอาจารย์ ไม่ศึกษาก็ไม่รู้ค่าแน่นอน

    ผู้ฟัง ท่านอาจารย์จะให้ศึกษาจากไหน

    ท่านอาจารย์ พระไตรปิฎกไงคะ ซึ่งตรงกับสภาพธรรมที่มีจริงๆ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนเรื่องสิ่งที่ไม่มีจริง ทุกอย่างที่ตรัสรู้ และทรงแสดงเป็นเรื่องสภาพธรรมที่มีจริงๆ ทั้งหมด เป็นความจริงทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ไม่ว่าจะโลกนี้ โลกไหน

    ผู้ฟัง ถ้าหาผู้ชี้แนะให้ไม่ถูกต้อง การอ่านพระไตรปิฎกก็จะเข้าข้างตนเอง ตีความไปเอง

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นเราก็มาสนทนากันไงคะ ใครไปอ่านที่ไหนมาอย่างไร ก็มาสนทนากันให้เข้าใจ

    พระคุณเจ้า ปัญหาคือเรายังมองไม่เห็นค่าของการศึกษา ไม่มีสิ่งเร้า หรือสิ่งกระตุ้น หรือคุณค่าที่เกิดขึ้นโดยสังคม เราจะเห็นว่าถ้าเป็นของบางอย่าง เช่นเด็กสมัยนี้ชอบไปดูคอนเสิร์ต เพราะอะไร เพราะเพื่อนบอกว่าไปดูซิสนุกมาก มันมาก สุดๆ เลย ไม่เห็นมีใครบอกว่า ไปฟังธรรมซิ เปิดวิทยุรายการนี้ซิ อาจารย์สุจินต์กำลังพูดอยู่ ฟังแล้วฉันสว่าง ฉันมีปัญญา ฉันรู้ ฉันแก้ทุกข์ได้ ยังไม่เคยได้ยินคนมาบอกกล่าวกันแบบนี้ หลวงพี่อาจจะโชคร้ายหน่อยไม่ได้ใกล้ชิดคนที่มาประกาศอย่างนี้ในอดีต

    ท่านอาจารย์ ถึงบอกก็ไม่เชื่อ ถ้าไม่ได้สะสมมา เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องของการสะสมจริงๆ เพราะว่าทุกคนที่บ้านก็เปิดวิทยุ คนฟังก็มี คนไม่ฟังก็มี แล้วแต่เจ้าค่ะ


    หมายเลข 8296
    24 ส.ค. 2567