อย่าลบหลู่ธรรมเป็นเรื่องเล็กน้อย
พระศุภกร จำเป็นไหมที่จะต้องรู้จักมิจฉามรรค
ท่านอาจารย์ ทิฏฐิ ความเห็นผิดจะดับหมดเมื่อเป็นโสตาปัตติมรรคจิตเจ้าค่ะ
พระศุภกร พูดถึงข้อปฏิบัติ
ท่านอาจารย์ ข้อปฏิบัติจะมีทั้งสีลลัพพตปรามาส ซึ่งผู้อบรมเจริญปัญญาจะรู้แล้วละไปเรื่อยๆ จนกว่าจะดับได้
พระศุภกร ในการแสดงธรรมเพื่อให้ผู้ฟังได้มีโอกาสเจริญสัมมาสติ ความสำคัญให้เห็นว่า สีลลัพพตปรามาสเป็นอย่างไร ควรจะมีการอธิบายไหม
ท่านอาจารย์ ถ้ายังไม่รู้จักลักษณะของสภาพธรรม ก็คงจะไม่รู้จักสีลลัพพตปรามาส เพราะเข้าใจว่าที่กำลังฟัง กำลังเข้าใจเป็นธรรมแล้ว เพราะฉะนั้นก็อยากจะทำ อยากจะเจริญ อยากจะปฏิบัติเลย ซึ่งความจริงไม่ได้เข้าใจเลยว่า ไม่ได้รู้จักธรรม ยังไม่รู้จักธรรมเลย
เพราะฉะนั้นจะอบรมเจริญได้อย่างไร ถ้าไม่รู้จักธรรมก่อน
พระศุภกร ถ้าอย่างนั้นผู้ที่ยังไม่รู้จักธรรมจริงๆ แต่อ้างว่าปฏิบัติธรรม ก็คงจะสรุปได้เลยว่า เป็นสีลลัพพตปรามาสแน่นอน
ท่านอาจารย์ เจ้าค่ะ เป็นความเห็นผิดด้วย
พระศุภกร อันนี้สำคัญมาก อาตมาก็มาพิจารณาดูว่า ควรจะให้ความสำคัญของสีลลัพพตปรามาสมากน้อยแค่ไหน หรือเราไม่สนใจ จะปฏิบัติข้อปฏิบัติที่ถูกอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นข้อปฏิบัติที่ถูกจริงๆ ต้องสามารถบอกได้ว่า ข้อปฏิบัติใดเป็นสีลลัพพตปรามาส จึงจะชื่อว่า ผู้นั้นรู้สัมมามรรคจริงๆ อย่างนั้นจะเป็นไปได้ไหม
ท่านอาจารย์ เจ้าค่ะ ขณะนี้กำลังฟังเรื่องธรรม มีใครกำลังปฏิบัติบ้าง มีไหมคะ ถ้ามี ถูกหรือผิด
ต้องแยกกันหรือเปล่าคะ เพราะเหตุว่าปฏิบัตินี่เป็นปริยัติ ฟังให้เข้าใจสภาพธรรม เรื่องสภาพธรรม ตัวจริงของธรรมให้เข้าใจจริงๆ เป็นสังขารขันธ์ เพราะฉะนั้นไม่มีคนหนึ่งคนใดปฏิบัติ แต่ถ้าขณะใดสัมมาสติเกิด สัมมาสติปฏิบัติกิจของสัมมาสติ คือ ระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรม สัมมาทิฏฐิก็ปฏิบัติกิจของสัมมาทิฏฐิ คือ มีความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้อง สัมมาสังกัปปะก็จรดที่อารมณ์ ที่สติกำลังระลึก เพื่อปัญญาจะได้รู้ หรือค่อยๆ รู้จนกว่าจะรู้ชัดในสิ่งนั้น
เพราะฉะนั้นก็เป็นความละเอียดมากที่จะต้องเข้าใจจริงๆ
นี่คือสรรเสริญพระปัญญาคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่าลบหลู่ คิดว่าเล็กน้อย หรือไม่ต้องศึกษาก็ได้