ต้องการเหตุของทุกข์อยู่ตลอด
ผู้ฟัง เคยฟังท่านอาจารย์พูดเกี่ยวกับโลกธรรม ๘ ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ สุข ทุกข์ สรรเสริญ นินทา ถ้าเรารับให้เป็น เราควรรับอย่างไรคะ
ท่านอาจารย์ ก็เป็นทุกข์ค่ะ ถ้าฝ่ายดี ท่านแสดงไว้เหมือนขวานฟ้า สิ่งที่มาจากฟ้าสวรรค์ เราก็รู้ว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าทำร้ายเรา เพราะเหตุว่าที่จริงแล้ว ใครจะชมสักเท่าไร เราเองเป็นคนรู้ว่า เราเองเป็นจริงอย่างที่เขาชมหรือเปล่า มากหรือน้อย หรือว่าไม่ตรง ไม่ใช่ว่าพอเขาชมก็ดีใจ ทั้งๆ ที่ไม่เป็นอย่างนั้น และถ้ารู้ว่า สิ่งที่เราพอใจว่าเป็นลาภ ก็คือได้สิ่งที่น่าพอใจทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ชั่วคราว สั้นมาก สั้นมากเพราะอะไรคะ ความจริงสิ่งนั้นไม่ใช่ของใคร เพียงเกิดแล้วดับ แล้วกระทบกับตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็ปรากฏให้เห็น แต่เพราะความไม่รู้ ทุกคนก็ติดในสิ่งนั้นอย่างมาก และไม่อยากจะมีทุกข์ แต่ต้องการเหตุของทุกข์อยู่ตลอด
ก็เป็นอย่างนี้ คือไม่ตรงกัน ถ้ามีปัญญา เราก็รู้ว่า ชั่วคราว เล็กน้อย เมื่อไม่มีเรา การศึกษาธรรมทำให้ลดความเป็นเรา เล็กลงๆ จนไม่เหลือ อย่างที่บอกว่า ตามความเป็นจริงเราคิดว่า มีเราทั้งตัวตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า แต่รูปเกิดดับเร็วมากจนหมดไม่เหลือ เหลือเฉพาะรูปใดที่เกิดแล้วสติระลึก แล้วปรากฏ ชั่วขณะสั้นแสนสั้น แล้วก็ดับ
เพราะฉะนั้นมีอะไรเหลือตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า แม้สิ่งที่เคยเป็นตัวเราก็ไม่มี แต่ว่ามีธาตุหรือธรรมซึ่งเกิดตามเหตุตามปัจจัย บังคับบัญชาไม่ได้ แต่ความไม่รู้ก็หลงยึดถือธาตุนั้นๆ ที่ปรากฏว่าเป็นเรา หรือว่าเป็นของเรา
เพราะฉะนั้นผู้ที่รู้ความจริงก็จะละคลายทุกข์ เพราะเกิดจากกิเลส ความไม่รู้ ตามกำลังของปัญญา