ถ้ายังมีเรา ยังวิสุทธิไม่ได้
พระคุณเจ้า ในอริยมรรคมีองค์ ๘ เป็นสัมมาสมาธิใช่ไหม
ท่านอาจารย์ แน่นอนค่ะ เพราะเกิดกับสัมมาทิฏฐิ
พระคุณเจ้า อริยมรรคมีองค์ ๘ บอกว่าสัมมาสมาธิเป็นสมาธิของฌาน ๔
ท่านอาจารย์ ถ้าศึกษาพระไตรปิฎก ก็จะเห็นได้ว่า บางข้อความแสดงโดยอุกฤต แต่ต้องเข้าใจด้วยว่า ขณะใดที่เป็นตทังคปหาน จะต้องเป็นมหากุศลญาณสัมปยุตต์ เพราะฉะนั้นไม่ใช่อุปจารสมาธิ ไม่ใช่อัปปนาสมาธิ แต่พอพูดถึง ศีลวิสุทธิ จิตตวิสุทธิ ทิฏฐิวิสุทธิ และวิสุทธิต่อๆ ไป เพียงขั้นของศีลวิสุทธิ ก็ต้องรู้แล้วว่า ศีล กับศีลวิสุทธิ ต่างกันอย่างไร จิตตะ คือ สมาธิ กับจิตตวิสุทธิต่างกันอย่างไร มิฉะนั้นก็จะมีการปะปนสับสนกัน เพราะเหตุว่าถึงแม้จะแสดงไว้ว่า จิตตวิสุทธิ ได้แก่ อุปจารสมาธิ และอัปปนาสมาธิ แสดงโดยอุกฤต แต่ว่าการอบรมเจริญสติปัฏฐาน มหากุศลญาณสัมปยุตต์ ไม่ใช่อุปจารสมาธิ ไม่ใช่อัปปนาสมาธิ หรือแม้แต่วิปัสสนาญาณก็เป็นตทังคปหาน ซึ่งไม่ใช่อุปจารสมาธิ ไม่ใช่อัปปนาสมาธิ
เพราะฉะนั้นก็ต้องมีความเข้าใจให้สอดคล้องกันด้วยว่า เมื่อไรแสดงโดยขั้นอุกฤต คือรวมด้วยว่า แม้อุปจารสมาธิหรืออัปปนาสมาธิ เมื่อขณะใดที่สามารถรู้ลักษณะที่เป็นนามธรรม ไม่ใช่เรา เมื่อนั้นจึงจะเป็นจิตตวิสุทธิ
เพราะฉะนั้นพวกที่ได้ฌานถึงรูปฌาน อรูปฌาน แต่ขณะนั้นไม่มีการระลึกลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตน ไม่มีสติปัฏฐานเกิด ขณะนั้นไม่ใช่จิตตวิสุทธิ
เพราะฉะนั้นรูปฌาน อรูปฌานที่เป็นจิตตะ แต่ไม่ใช่จิตตวิสุทธิก็มี รูปฌาน อรูปฌานที่เป็นจิตตวิสุทธิก็มี เพราะฉะนั้นเมื่อใดเป็นวิสุทธิ ถ้าเป็นวิสุทธิ ๗ เป็นเรื่องของการรู้แจ้งอริยสัจธรรม เพราะฉะนั้นวิสุทธิ ๗ ต้องวิสุทธิตั้งแต่ศีลวิสุทธิ ขณะนั้นไม่ใช่เราที่วิรัติ แต่เป็นสภาพธรรม อย่างอินทรียสังวร ก็เป็นการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นอินทรียสังวร ขณะนั้นก็เป็นศีลวิสุทธิ แล้วถ้าเป็นจิตตวิสุทธิ ขณะนั้นต้องมีปัญญา แล้วก็รู้สภาพที่ไม่ใช่ตัวตน จึงจะเป็นวิสุทธิได้เจ้าค่ะ มิฉะนั้นแล้วไม่มีทางที่จะเป็นวิสุทธิ เพราะว่าวิสุทธิที่เป็นศีลวิสุทธิ จิตตวิสุทธิ เป็นบาทของทิฏฐิวิสุทธิ ซึ่งเป็นนามรูปปริจเฉทญาณ ทิฏฐิวิสุทธิที่นี่ ไม่ใช่เพียงวิสุทธิเฉยๆ ด้วยสติปัฏฐาน แต่ต้องเป็นวิปัสสนาญาณที่นามรูปปริจเฉทญาณ