เวลาที่เข้าใจธรรม...ไม่มีชื่อ


    ผู้ฟัง ถ้าอย่างนั้นไม่ใช่สติปัฏฐาน แต่ว่าเป็นกุศลประกอบด้วยปัญญานิดๆ หน่อยๆ ได้ไหมคะ

    ท่านอาจารย์ ขั้นคิดได้

    ผู้ฟัง และอีกอย่างหนึ่ง คือ จะถามว่า สติปัฏฐานไม่ปรากฏกับภวังคจิตหรือคะ

    ท่านอาจารย์ ภวังคจิตเป็นชาติอะไร

    ผู้ฟัง วิบาก

    ท่านอาจารย์ และวิบากจิตทำหน้าที่อะไรบ้าง

    ผู้ฟัง ปฏิสนธิ จุติ และภวังค์

    ท่านอาจารย์ แล้วอะไรอีก

    ผู้ฟัง ตทาลัมพนะ

    ท่านอาจารย์ แล้วอะไรอีก

    ผู้ฟัง ไม่มีค่ะ

    ท่านอาจารย์ วิบากค่ะ พูดถึงวิบากค่ะ

    ผู้ฟัง ก็คือกิจ ๑๔ กิจ

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นมีอะไรอีกที่เป็นวิบาก ที่เป็นหน้าที่ของวิบาก

    ผู้ฟัง เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นที่เรียนมาแล้วทิ้งอะไรไม่ได้เลย ถึงจะเข้าใจถูก

    ผู้ฟัง สติปัฏฐานสามารถระลึกสภาพธรรมตอนที่เป็นวิถีจิต ที่ประกอบใน ๖ ทวารหรือคะ

    ท่านอาจารย์ เวลาที่มีสภาพธรรมปรากฏทางตา หรือหู หรือจมูก หรือลิ้น หรือกาย หรือใจ ไม่ต้องคิดถึงทวารค่ะ มีสภาพที่ปรากฏให้ค่อยๆ เข้าใจ และขณะที่กำลังค่อยๆ เข้าใจ เป็นสติ ไม่ใช่เราต้องไปทำสติ หรือเราต้องไปเรียกชื่อ “สติ” หรือเราต้องไปคิดเรื่องสติ แต่ขณะนั้นสภาพของสติเกิด จึงค่อยๆ ระลึกที่ลักษณะที่มี แล้วค่อยๆ เข้าใจขึ้น ขณะที่กำลังค่อยๆ เข้าใจนั้น คือ การอบรมเจริญความรู้ในลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ

    ผู้ฟัง ถ้าอย่างนั้นสติปัฏฐานหรือปัญญาจะปรากฏที่ชวนะหรือคะ

    ท่านอาจารย์ ไม่ต้องมีคำว่า “ชวนะ” ด้วย เวลาที่เข้าใจธรรม ไม่มีชื่อนะคะ คุณชิน พระพุทธเจ้าตรัสรู้สภาพธรรม ในขณะนั้นไม่มีชื่ออะไรเลย มีแต่สภาพธรรมที่ปรากฏ และพระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีที่จะทรงรู้แจ้งในลักษณะของสภาพธรรมมากมายกว่าเรา อย่างเราเห็นดาว แต่เรานับดาวไม่ได้ เราไม่มีปัญญาที่จะทำอย่างนั้น แต่ใครสามารถรู้ได้

    ผู้ฟัง พระพุทธองค์

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นเหตุไม่เท่ากัน ไม่เสมอกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราสามารถรู้ได้ เพียงสิ่งที่ปรากฏแล้วค่อยๆ อบรมเจริญปัญญา ซึ่งแต่ละคนจะรู้ตัวเองตามความเป็นจริงว่า สะสมปัญญาระดับไหน ที่จะมีอะไรเป็นอารมณ์ เลือกก็ไม่ได้ ที่จะให้อย่างนั้นเป็นอารมณ์ อย่างนี้เป็นอารมณ์ เกินวิสัย เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถอยากให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นอารมณ์ แต่เราสามารถรู้ความจริงได้ว่า สติระลึกอะไร และสามารถประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมอะไร เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น ต้องตามเหตุตามปัจจัย

    ผู้ฟัง ชินก็ยังไม่ค่อยเข้าใจที่ว่า ทำไมสติปัฏฐานไม่สามารถระลึกรู้ชาติของจิตที่เป็นวิบากคะ

    ท่านอาจารย์ อะไรล่ะคะ เอาอันไหน ชาติของจิตที่เป็นวิบาก วิบากอะไร

    ผู้ฟัง อย่างเช่นจิตเห็น

    ท่านอาจารย์ ทำไมสติจะระลึกไม่ได้ กำลังเห็น เห็นมี สติก็ระลึกได้ แต่ถ้าเห็นไม่มี สติจะไประลึกเห็น ได้ไหมคะ เพราะฉะนั้นขณะใดที่เห็นไม่เกิด จะไปรู้เห็น ระลึกเห็นไม่ได้ แต่ขณะที่กำลังเห็นขณะนี้เองที่สติสามารถจะระลึกแล้วค่อยๆ เข้าใจขึ้นได้

    ผู้ฟัง อย่างนั้นความหมาย คือ อะไรที่ปรากฏ ขณะนั้นสติระลึกได้

    ท่านอาจารย์ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ


    หมายเลข 8397
    23 ส.ค. 2567