ศึกษาธรรมแบบไหน ๒
ท่านอาจารย์ คุณซีศึกษาธรรมหรือเปล่าคะ
ผู้ฟัง ศึกษาครับ
ท่านอาจารย์ ศึกษาแบบไหนคะ
ผู้ฟัง ทั้งแบบที่ไม่เข้าใจ และมีเข้าใจบ้าง
ท่านอาจารย์ และศึกษาลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้หรือเปล่าคะ
ผู้ฟัง ก็มีการสังเกต
ท่านอาจารย์ ขณะที่ค่อยๆ เข้าใจ หมายความว่าค่อยๆ รู้ลักษณะซึ่งเป็นสภาพรู้ซึ่งกำลังเห็น หรือเข้าใจลักษณะของสิ่งที่ปรากฏทางตา ซึ่งเคยยึดถือว่าเป็นคนนั้นคนนี้ อยู่ที่นั่นที่นี่ สารพัดที่จะคิดเวลาที่มีสิ่งที่ปรากฏทางตา แต่การที่จะละความติดในนิมิตอนุพยัญชนะ ก็เพราะสามารถเข้าใจถูกตั้งแต่ขั้นเริ่มว่า ขณะใดที่สติปัฏฐานเกิด ขณะนั้นเริ่มที่จะคลายความติดในนิมิตอนุพยัญชนะ เพราะกำลังเข้าใจว่า ขณะนี้เป็นเพียงสิ่งที่ปรากฏเท่านั้น หลังจากนั้นก็เป็นคิด ซึ่งสืบต่อเร็วมาก แต่ละทางๆ นี่คือการศึกษาธรรม ถ้าศึกษาธรรมอย่างนี้ เวลาที่โทสะเกิดขึ้น คุณซีต้องคิดไหมว่า ปฏิฆสัมปยุตต์ อสังขาริกหรือสสังขาริก แต่รู้ลักษณะของสภาพนั้นว่าเป็นธรรม
เพราะฉะนั้นการศึกษาของเรา ปริยัติขั้นต้นอย่างไร เวลาประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมก็ต้องตามลำดับขั้นต้นอย่างนั้น คือ ต้องมีความเข้าใจว่า เป็นธรรมชนิดหนึ่ง มีลักษณะอย่างนั้นที่กำลังปรากฏให้เข้าใจว่า ลักษณะนี้ไม่ใช่ลักษณะของเมตตา ไม่ใช่ลักษณะของโลภะ ไม่ใช่ลักษณะของริษยา ไม่ใช่ลักษณะของกรุณา มุทิตา ก็เป็นสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ๆ ซึ่งมีจริงๆ ในชีวิตประจำวัน แต่ว่าเราศึกษาชื่อ แต่ต่อไปเวลาที่สภาพธรรมนั้นเกิด และเราเข้าใจความเป็นธรรม ก็จะค่อยๆ คลายความเป็นเรา เพราะเหตุว่ารู้ว่า ลักษณะนั้นก็เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง ต้องบอกไหมว่า ชื่อเป็นนามธรรมหรือรูปธรรม ไม่ต้อง เพราะลักษณะเป็นนามธรรมอยู่แล้ว หรือลักษณะที่เป็นรูป ก็เป็นรูปธรรมอยู่แล้ว แต่เข้าใจให้ถูกต้องว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่ใช่เรา ก็ไม่ต้องพูด
ถ้าเข้าใจว่าเป็นธรรม เมื่อเป็นธรรมแล้วก็เป็นธรรม จะเป็นเราได้อย่างไร แต่ไม่ได้ห้าม คือ คนที่ฟังเผินๆ ก็เหมือนจะห้ามไปเสียทุกอย่าง พูดถึงอกุศลก็ไม่ให้เกิด เป็นไปได้อย่างไร ตามความเป็นจริงทุกอย่าง เมื่อกี้นี้ใครจะมีกุศลจิตประเภทใดเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของเหตุปัจจัย
เพราะฉะนั้นก็เป็นธรรมดา เป็นปกติ จะเปลี่ยนการสะสมของคุณนีน่าไม่ให้คิดไม่สบายใจได้ไหมคะ ในเมื่อความไม่สบายใจเกิดแล้ว ผ่านไปแล้วด้วย ข้อสำคัญคือไม่ใช่คุณนีน่าเลย เมื่อไรจะรู้ว่า ไม่ใช่เลย เป็นแต่เพียงสภาพธรรมที่เกิดแล้วก็ดับ ทุกขณะค่ะ ต้องเข้าถึงความเป็นธรรม สิ่งใดที่มีเกิดขึ้น ปรากฏแล้วก็หมดไป ค่อยๆ เข้าใจขึ้น
นี่คือการศึกษาธรรม เมื่อมีปัจจัยพอที่จะระลึกในขณะนั้น ขณะนั้นมีปัจจัยพอที่จะระลึกลักษณะของสภาพธรรม หรือว่าคิดคะ คุณนีน่า
คุณนีน่า นิดหน่อยเริ่มต้นจะมีความรู้สึกในสังเวชนียสถาน จะมีอกุศลอย่างโทสะแรงๆ ไม่เหมาะ แต่ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะว่าเป็นปกติธรรมดา แต่คิดว่าระลึกนิดหน่อย และก็คิดมากๆ ก็ได้
ท่านอาจารย์ ก็ยังเป็นโอกาสซึ่ง ณ สถานที่นี้ ก็จะมีผู้ไม่ประมาทในการอบรมเจริญปัญญาด้วยความละเอียด ความรอบคอบ มิฉะนั้นพระศาสนาก็จะตั้งมั่นคงต่อไปไม่ได้ และเมื่อ ๒,๕๐๐ กว่าปี เป็นที่ที่มีพระอรหันต์มากมาย แต่หลังจากนั้นมาแล้ว ยังไม่ถึง ๕,๐๐๐ ปี เรานั่งอยู่ในที่นี่ เราเป็นผู้มีการศึกษาด้วยความละเอียดรอบคอบ และด้วยความมั่นคงที่จะศึกษาต่อไป เพราะเหตุว่าการที่จะได้พบพระพุทธศาสนาไม่ง่ายเลย