ต่างกำลัง ต่างขั้น ต่างระดับ


    ผู้ฟัง โพธิปักขิยธรรม ๓๗ องค์ธรรมบางอันก็ซ้ำๆ กัน แต่ทำไมต้องมีหลายชื่อ

    ท่านอาจารย์ โลภะของคุณจรัล มีอย่างเดียวหรือหลายอย่าง

    ผู้ฟัง หลายอย่างครับ

    ท่านอาจารย์ มีระดับเดียว หรือหลายระดับ

    ผู้ฟัง หลายระดับครับ

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นธรรมที่เป็นโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ก็คืออย่างนั้น

    ผู้ฟัง แต่ขณะที่เป็นมรรควิถี ก็มีองค์ธรรมอันเดียว ไม่ใช่หรือครับ

    ท่านอาจารย์ แต่ว่าก่อนนั้นล่ะคะ ก่อนนั้นมีอันเดียวไปเรื่อยๆ หรืออย่างไร

    ผู้ฟัง ถ้าเป็นเจตสิกอันเดียว ก็มีกำลังต่างกัน ระดับก็ต่างกัน ตรงนั้นทำไม

    ท่านอาจารย์ เพราะต่างกันซิคะ ถึงแสดงิ ๓๗ ไม่ใช่มีขั้นเดียวตลอด อย่างอินทรีย์กับพละ ทำไมไม่ทรงแสดงว่าอินทรีย์อย่างเดียว แต่เมื่ออบรมไปแล้ว สภาพนั้นแหละมั่นคง ไม่หวั่นไหว ไม่ว่าอารมณ์ใดจะปรากฏ เพราะเหตุว่าสตินทรีย์ก็เป็นสภาพที่เป็นใหญ่ เป็นศรัทธา ความผ่องใสของจิต ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา เวลาที่เกิดตอนต้นๆ จะมากหรือจะน้อย ทั้งศรัทธา ทั้งวิริยะ ทั้งสติ ทั้งสมาธิ ทั้งปัญญา ตอนที่เริ่มเกิดเช่นในขณะนี้ ถ้าจะมีการค่อยๆ เข้าใจ ที่ใช้คำว่า “ค่อยๆ ” เพราะเหตุว่าไม่มีใครสามารถเข้าใจได้ทันที จนประจักษ์ลักษณะที่เป็นนามธรรม และรูปธรรมเกิดดับ ถ้าเป็นผู้ที่ได้อบรมมาแล้ว เพียงชั่วขณะสั้นมากที่โลกุตตรจิตเกิด แค่จิตที่เป็นวิถีจิต ๗ ขณะ สั้นแค่ไหน แต่ปัญญาขณะนั้นสามารถประจักษ์แจ้งลักษณะของนิพพาน เท่ากับประจักษ์แจ้งลักษณะของอริยสัจทั้ง ๔ ที่ได้เจริญมาแล้ว และขณะนั้นสามารถจะดับกิเลสเป็นสมุจเฉท ไม่เกิดอีกเลย เพราะมีนิพพานเป็นอารมณ์

    เพราะฉะนั้นกว่าที่จะถึงระดับนั้น ศรัทธาเพิ่มขึ้นหรือเปล่า วิริยะเพิ่มขึ้นหรือเปล่า สติเพิ่มขึ้นหรือเปล่า สมาธิเพิ่มขึ้นหรือเปล่า ปัญญาเพิ่มขึ้นหรือเปล่า

    เพราะฉะนั้นก็เป็นแสดงถึงว่า ถ้าไม่มีความต่างของการอบรมเจริญปัญญาเป็นขั้นๆ ขึ้นไป ก็ไม่สามารถรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ เพราะเหตุว่าถ้าใช้แต่เพียงคำว่า “สติปัฏฐาน” ก็แค่นั้นเอง ก็แค่สติปัฏฐาน แต่สติปัฏฐานที่ได้อบรมแล้ว ศรัทธาเป็นอย่างไร มั่นคงขึ้นหรือเปล่า หวั่นไหวไหม เพราะว่าส่วนใหญ่คนไม่ชอบอกุศลเลย พอมีอกุศลเกิดขึ้น เขาอยากจะทำอย่างอื่นใช่ไหมคะ จะไปข่มไว้ หรือจะเปลี่ยน หรือจะทำอะไรก็แล้วแต่ แทนที่จะอาจหาญ ร่าเริง เป็นพละ ไม่ว่าอกุศลระดับไหน ปัญญาก็สามารถจะระลึกรู้ได้

    เพราะฉะนั้นขณะนั้นก็ต้องเป็นความต่างของศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ที่เกิดพร้อมสติปัฏฐานในขั้นต้น ถ้าเป็นขั้นนั้นอยู่เรื่อยๆ ก็ไม่มีทางรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ เพราะฉะนั้นก็ทรงแสดงไว้ว่า ต้องประกอบด้วยโพธิปักขิยธรรม ๓๗

    ผู้ฟัง ทั้งหมดนี้ต้องเจริญขึ้นพร้อมๆ กันหรือเปล่าครับ หรือว่าปัญญาคมขึ้น ธรรมทั้งปวงก็ต้องเจริญขึ้น

    ท่านอาจารย์ ถ้าไม่เป็นวิปัสสนาญาณ ความหวั่นไหวก็ยังมีตามลำดับขั้นด้วย จนกว่าจะดับได้เป็นสมุจเฉท วิจิกิจฉาก็ยังมี


    Tag  จรัล  
    หมายเลข 8447
    23 ส.ค. 2567