มั่นคงคือไม่ผิดทาง


    ผู้ฟัง ที่อาจารย์ว่า จนกระทั่งเข้าใจจริงๆ ๆ ๆ หลายจริง ครั้งแรกอาจจะจริงเดียวก่อนใช่ไหมครับ แล้วค่อยเป็น ๒ จริง ๓ จริง

    ท่านอาจารย์ ไม่ต้องสงสัยจะ ๑๐๐ จริง ๑,๐๐๐ จริงอย่างไร เดี๋ยวก็จะไปนับกันว่า ถึงเท่าไรแล้ว จริงแค่นี้หรือยัง

    ผู้ฟัง คือค่อยๆ รู้ขึ้น ก็เป็นความมั่นคงของความเข้าใจ ซึ่งเรารู้ว่า เป็นความมั่นคง คือ มั่นคงอะไรคะ สภาพธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ลืมอีกแล้ว จะให้เป็นอย่างนั้นอีกแล้ว จะให้เป็นอย่างนี้อีกแล้ว จะให้ทำอย่างโน้นอีกแล้ว มั่นคงเรื่องอนัตตาหรือเปล่าคะ ก็บอกว่าธรรมไงคะ ธรรมก็ต้องเป็นอนัตตา ไม่เป็นใคร ก็ไม่มั่นคงแล้ว เมื่อไรจะทำ ไม่ใช่เข้าใจ เมื่อนั้นคือไม่มั่นคง

    ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นมั่นคงตรงนี้ก็หมายความว่า แม้จะหลงลืมสติ แต่ถ้าได้พิจารณาต่อไปสัญญาที่มั่นคงก็เป็นอย่างนั้นอีก ไม่ใช่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น

    ท่านอาจารย์ มั่นคงคือไม่ผิดทาง ถ้ารู้ว่า ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา คุณซีจะมีความเชื่ออื่นไหม

    ผู้ฟัง ก็เพราะตอนนี้ยังไม่มีความมั่นคง ก็มีบ้างครับ

    ท่านอาจารย์ จะมั่นคงจริงๆ ต่อเมื่อเป็นโลกุตตระ อธิคม หรือถึงพระรัตนตรัยที่เป็นโลกุตตรสรณคมน์ ไม่ใช่โลกียสรณคมน์ มั่นคงแค่นี้ ก็เอาแค่นี้ไปก่อน เดี๋ยวก็จากโลกนี้ไป ก็ไปเสริมสร้างความมั่นคงขึ้นอีก หรืออาจจะไขว่เขวไปทางไหนก็ไม่รู้

    เพราะฉะนั้นข้อสำคัญที่สุด คือ มีความมั่นคงหนักแน่นในเหตุผล ในสภาพธรรมที่มีจริงที่ปรากฏ ไม่ใช่เป็นแต่เพียงเรื่องราวเท่านั้น ค่อยๆ เสริมสร้างสะสมความเข้าใจถูก ความเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมยิ่งขึ้น


    หมายเลข 8468
    23 ส.ค. 2567