สภาพธรรมใหม่เสมอ
ผู้ฟัง จริงๆ แล้วแข็งมี โดยเป็นสภาพที่เป็นธรรมของเขาอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าไม่มีผัสสะ เราก็ไม่สามารถระลึก และรู้ได้ ใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้วแข็งมี
ท่านอาจารย์ อยู่แล้ว อยู่เมื่อไร
ผู้ฟัง อย่างสมมติว่า สิ่งที่ปรากฏทางตาตรงนี้ เขาก็มีของเขาอยู่แล้ว
ท่านอาจารย์ ไม่เกิดหรือคะ
ผู้ฟัง ก็ถ้าเราไม่จักขุปสาท ก็ไม่มีผัสสะ
ท่านอาจารย์ ไม่ใช่เลยค่ะ ใครจะเห็นหรือไม่เห็น สิ่งที่มีเกิดขึ้นแล้วดับไป ไม่ใช่มีเมื่อเรารู้นะคะ มีเหตุปัจจัยก็เกิด แต่จะปรากฏกับจิตเมื่อเป็นอารมณ์ของจิต
ผู้ฟัง ใช่ค่ะ ก็คือสภาพธรรมมีอยู่โดยธรรมชาติ
ท่านอาจารย์ มีอยู่ หรือเกิดดับ
ผู้ฟัง เกิดดับ ดำรงอยู่
ท่านอาจารย์ รูปสักรูปเดียวก็ไม่เที่ยงค่ะ อย่าคิดว่าเที่ยงเลย เรามานั่งอยู่ที่นี่ตั้งนาน รูปเกิดดับนับไม่ถ้วน ไม่ใช่มีอยู่แล้ว แล้วผัสสะไปกระทบ ไม่ใช่ ไม่ได้มีอยู่แล้ว รูปเกิด ถ้าเรียนวิถีจิตก็จะรู้ เกิดเมื่อไร กระทบกับปสาทเมื่อไร จิตอะไรเกิดขึ้นตามลำดับ รูปก็ดับ ก็ไม่ยอมที่จะเห็นจริงว่ารูปดับ ใช่ไหมคะ เหมือนกับรูปมีอยู่แล้ว แล้วผัสสเจตสิกก็ไปกระทบแล้วปรากฏ
ผู้ฟัง คือเป็นสภาพธรรมที่เกิดดับตามธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว ถูกไหมคะ
ท่านอาจารย์ แต่ไม่ใช่รูปเก่า
ผู้ฟัง ไม่ใช่รูปเก่าค่ะ แต่นั่นคือความเข้าใจ ไม่ใช่เป็นปัญญาที่รู้
ท่านอาจารย์ แล้วใครสอนเรา
ผู้ฟัง ก็พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านอาจารย์ ถ้าไม่ประจักษ์จะสอนได้ไหมคะ
ผู้ฟัง ไม่ได้ค่ะ
ท่านอาจารย์ เพราะความจริงเป็นอย่างนี้ ประจักษ์อย่างนี้ จึงได้ทรงแสดงอย่างนี้ ให้ผู้ที่รู้ตาม รู้ตามอย่างนี้ได้
ผู้ฟัง แต่ยากที่จะเห็นว่าเกิดดับ
ท่านอาจารย์ ถ้าง่าย ไม่เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแน่ค่ะ พูดว่า “ยาก” เมื่อไร คือ สรรเสริญพระปัญญาคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อนั้น