จิต


    พระคุณเจ้า จิตคืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไร มีการเกิดเป็นบุญเป็นกุศลอย่างไร ขอให้อธิบายคร่าวๆ

    ท่านอาจารย์ ทุกคนคงยอมรับว่ามีจิต ใช่ไหมคะ มีใครไม่มีจิตบ้าง ช่วยตอบด้วยค่ะ มีไหมคะ ไม่มีนะคะ ทุกคนมีจิต เรียกอีกคำได้ไหมคะว่า “ใจ” ภาษาไทยเรา ก็เลยใช้คู่กันไปว่า “จิตใจ” หมายความถึงไม่ใช่รูปร่างกาย เพราะว่าที่ว่าเป็นคน เป็นสัตว์ ไม่ใช่มีแต่เฉพาะร่างกาย แต่ต้องมีจิตใจด้วย

    เราพูดจนชิน แต่ว่าเรารู้จักจิตจริงๆ หรือเปล่า ไม่รู้จักจริงๆ แต่เราพูดได้ ถ้ารู้จักจริงๆ เราต้องรู้ว่า จิตอยู่ที่ไหน กำลังนั่งอยู่นี่ จิตอยู่ที่ไหน จิตมีรูปร่างไหม ไม่มี

    นี่คือความเห็นที่ค่อยๆ ถูกขึ้นทีละนิดว่า จิตใจไม่มีรูปร่างเลย ไม่ใช่สี ไม่ใช่เสียง ไม่ใช่กลิ่น ไม่ใช่รส ชิมจิตนี่ชิมไม่ได้แน่ จะได้ยินก็ได้ยินแต่เสียง จะไปได้ยินจิตนี่ไม่ได้ จะเห็นก็เห็นแต่สีสันวัณณะต่างๆ คนนั้นใส่เสื้อสีแดง คนนั้นสีขาว บ้านนี้สีอะไร ก็เป็นแต่เพียงสี ไม่สามารถเห็นจิตได้เลย

    เพราะฉะนั้นแม้ว่าจิตมี แต่ก็ไม่มีใครเห็น เพราะว่าจิตไม่ใช่รูปธรรม ไม่มีรูปร่าง ไม่มีหน้าตา ไม่มีสีสันวัณณะ ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส แต่จิตเป็นสภาพรู้ ต่างกับสิ่งที่ไม่ใช่สภาพรู้

    เพราะฉะนั้นในทางพระพุทธศาสนา จากการตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งในโลกนี้ และนอกโลก ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม มีสภาพธรรมที่ต่างกันเป็น ๒ อย่าง คือ อย่างหนึ่งไม่สามารถจะรู้อะไรได้เลย เป็นรูปธรรม แต่สภาพธรรมที่เป็นสภาพรู้ รู้ทุกอย่าง ตั้งแต่เกิดมาจนตาย รู้ไปหมด นั่นคือลักษณะของจิต

    เพราะฉะนั้นจิตเป็นธรรมที่มีจริง เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งแม้จะไม่มีรูปร่างอะไรเลย แต่ก็เป็นสภาพที่สามารถรู้สิ่งต่างๆ ได้

    เพราะฉะนั้นในขณะนี้ถ้าเข้าใจจิตเพิ่มเติมก็จะรู้ว่า ขณะที่เห็นขณะนี้เป็นจิต ตาไม่เห็นเลย คนนอนหลับก็มีตา แต่ไม่มีจิตเห็น คนตายก็ยังมีตา มีหู ยังมีรูปร่างครบถ้วน แต่ไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่คิดนึกทั้งสิ้น

    เพราะฉะนั้นส่วนที่เป็นการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส การคิดนึก นั่นคือลักษณะของจิตซึ่งเป็นสภาพรู้

    ถ้าจะเอารูปออกหมด เอาสีออกไปหมด ไม่เห็นอะไร เอาเสียงออกไป ไม่ได้ยินอะไร ไม่มีกลิ่นปรากฏ ไม่มีรสปรากฏ ไม่มีเย็น ร้อน อ่อน แข็งปรากฏ ก็ยังมีจิตที่คิดนึก

    เพราะฉะนั้นขณะใดที่คิดนึกเรื่องราวต่างๆ ขณะนั้นให้ทราบได้ว่าเป็นจิต เพราะฉะนั้นจิตดีก็คิดดี จิตไม่ดีก็คิดไม่ดี

    นี่ก็แสดงให้เห็นว่า เรามองเห็นว่า ถ้าแยกสภาพธรรมออกเป็นลักษณะที่ต่างกันใหญ่ๆ ก็จะต้องมี ๒ ประเภท คือ นามธรรมเป็นจิต และสภาพที่ไม่รู้อะไรเลย ก็เป็นรูปธรรม เป็นรูป คือไม่ใช่สภาพรู้

    เด็กๆ มีจิตไหมคะ มีนะคะ ตอนไหนคะ ตอนคลอด หรือก่อนคลอด

    ผู้ฟัง เข้าใจว่า ช่วงขณะที่ตั้งครรภ์ครับ

    ท่านอาจารย์ ถ้าไม่ถาม จะไม่ทราบเลย เพราะบางคนคิดว่า จิตมีตอนคลอดแล้ว แต่ความจริงขณะแรกที่เกิด ขณะแรกที่เกิดจิตเกิดพร้อมกับรูปที่เล็กมาก มองไม่เห็น และค่อยๆ เติบโตเจริญขึ้น แต่ถึงจะเจริญขึ้น ก็เห็นแต่รูปมาโดยตลอด ถึงแม้ว่ามีจิต เพราะเหตุว่าจิตเป็นสภาพที่ใครไม่สามารถเห็นได้ด้วยตา แต่สามารถจะรู้ได้ว่า มีจิต

    เพราะฉะนั้นมีจิตตั้งแต่ขณะแรกที่เกิด ที่เรายังมองไม่เห็นเลยในครรภ์

    นกมีจิตไหมคะ มีนะคะ ปลามีจิตไหมคะ มี ต้นไม้มีจิตไหมคะ ไม่มี

    นี่ค่ะ เราต้องมีความเข้าใจจริงๆ คือ การฟังธรรมถึงจะน้อยจะมากอย่างไร ก็ขอให้เข้าใจสิ่งที่ได้ฟัง และถ้าเราฟังมากขึ้น เราก็เข้าใจเพิ่มขึ้น แต่ผลของการฟัง คือ ขณะที่ฟังเข้าใจในสิ่งที่ฟังจริงๆ อย่างบอกว่า จิตเป็นสภาพรู้ ไม่มีรูปร่างเลย และตั้งแต่เกิดก็คือจิตเกิด ตายแล้วมีจิตไหมคะ

    ผู้ฟัง ตายแล้วจิตดับครับ

    ท่านอาจารย์ คนตายที่เราเรียกว่า ศพ ไม่มีจิตเลย แต่ว่าทันทีที่ตาย ตายปุ๊บเกิดปั๊บ ไม่มีระหว่างคั่นเลย จิตไม่หยุดทำงานเลย จิตทำงานตั้งแต่เกิดทุกๆ ขณะไป ตอนหลับจิตก็เกิดขึ้นทำภวังคกิจ ดำรงภพชาติให้ยังไม่ตาย เพื่อตื่นขึ้นจะเห็นอีก ได้ยินอีก ทุกวันก็คือจิต ไม่เคยขาดไปเลย

    เมื่อตายแล้ว ทันทีที่ทำหน้าที่เคลื่อน สิ้นสุดภพนี้ ปฏิสนธิจิตเกิดสืบต่อทันที ไม่มีระหว่างคั่น เหมือนเมื่อกี้นี้กับเดี๋ยวนี้ เหมือนเมื่อวานนี้กับวันนี้ เหมือนเดือนก่อนกับเดือนนี้ หรือเหมือนตั้งแต่ขณะที่เกิดจนถึงขณะนี้ จิตเหน็ดเหนื่อยมากไหมคะ ไม่หยุดเลย และไม่ใช่ชาตินี้ชาติเดียว แสนโกฏิกัปป์มาแล้ว

    เห็น ไม่ใช่ชาตินี้ชาติเดียว ชาติก่อนก็เห็น ชาติหน้าก็เห็น เพราะว่าตายปุ๊บ เกิดปั๊บก็เห็นอีกแล้ว ใช่ไหมคะ ถ้าเกิดเป็นสัตว์ในนรก หรือมีตัวรูปร่างทันที ก็มีการเห็น หรือเทวดา พอตายจากมนุษย์เกิดเป็นเทวดาก็เห็นทันทีได้ หลังจากที่ปฏิสนธิจิตดับไปแล้ว ภวังคจิตเกิดคั่นแล้ว จิตก็จะรู้อารมณ์ทางตา ทางหูได้

    ผู้ฟัง ผู้ที่จิตดับก่อนหมดอายุขัย จิตจะเกิดปฏิสนธิได้อย่างไรบ้างครับ

    ท่านอาจารย์ ไม่มีข้อยกเว้นค่ะ ไม่ว่าจะตายโดยอะไรก็ตาม โดยหมดอายุ โดยหมดกรรม โดยอุบัติเหตุ หรือโดยอะไรก็ตาม หน้าที่ของจิต คือ ทันทีที่จิตดวงนี้ ขณะนี้ดับ เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อทันที ใครเปลี่ยนแปลงจิตนิยามไม่ได้ นี่เป็นสภาพธรรมชาติของจิตซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องดับ และเมื่อดับแล้วต้องเป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อ

    ผู้ฟัง แสดงว่าที่บอกว่า ตายก่อนหมดอายุขัย แสดงว่าไม่มี ใช่ไหมครับ

    ท่านอาจารย์ จะตายโดยวิธีไหนก็ตามแต่ เพราะถ้าพูดถึงอายุขัย อายุของคนจะขึ้นลง ๑๐๐ ปีจะลดลงไป ๑ ปี สำหรับในยุคนี้เป็นยุคที่ลดลง และขณะนี้ก็คงประมาณ ๗๕ ปี ถ้าคนที่อายุยังไม่ถึง ๗๕ ตาย ก็ไม่ถึงอายุขัย แต่ตายเพราะสิ้นกรรม หรือตายเพราะกรรมอื่นมาตัดรอนก็ได้ แต่จะตายโดยวิธีใดๆ ก็ตาม จิตซึ่งเกิดแล้วดับ จะต้องเป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อทันที ไม่มีช่องว่างเว้นเลย เพียงแต่ไม่รู้ว่า เกิดที่ไหน เหมือนกับว่าเราตาย เราถึงได้เกิด แต่เราก็ไม่รู้ว่า ชาติก่อนเราตายเพราะอะไร ตายที่ไหน อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้


    หมายเลข 8494
    23 ส.ค. 2567