เหมือนรู้แต่ไม่รู้
ท่านอาจารย์ เมื่อกี้ก็ถามคนที่มาก่อนบอกว่า ไปอย่างไรมาอย่างไร บางคนก็บอกว่า เปิดวิทยุฟัง แล้วได้ยินบางคำที่คิดว่ามีประโยชน์ อย่างคำว่า “ธรรม” เคยได้ยินบ่อยๆ และคิดว่าคงจะนำมาใช้มีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รู้สึกอย่างนี้หรือเปล่าคะ
ผู้ฟัง รู้สึกว่า ถ้าเราเอาธรรมมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ เราสามารถพัฒนาชีวิตในทางที่ถูกได้ เราไม่หลงผิด ไม่เข้าใจผิด
ท่านอาจารย์ เมื่อกี้นี้บอกว่า ธรรมจะมีประโยชน์กับชีวิตอย่างมาก เป็นเพียงความคิดของเราหรือเปล่าคะ
ผู้ฟัง ใช่ครับ ทีนี้ยังไม่รู้ว่า หัวข้อธรรมไหน พอแจกแจงออกมาแล้วจะใช้สำหรับงานไหน ตรงนั้นคือยังมองไม่เห็น
ท่านอาจารย์ อันนี้ถูกต้อง คือ เราทุกคนจะมีความคิด แต่ว่าความคิดอย่างเดียวไม่พอ เราจะต้องมีเหตุผลด้วย อย่างเราบอกว่า ธรรมน่าจะมีประโยชน์ แต่เรายังไม่รู้เลยว่า ธรรมคืออะไร เพราะฉะนั้นถ้าเรารู้ว่า ธรรมคืออะไร เราจะยิ่งเห็นประโยชน์มากขึ้น
เพราะฉะนั้นก่อนอื่นเราก็ต้องเข้าใจแต่ละคำที่เราได้ยินให้ชัดเจน แล้วเป็นคนที่มีเหตุผลด้วย ถ้าคนที่ไม่มีเหตุผล การศึกษาธรรมจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะเหตุว่าใครเป็นผู้แสดงธรรม
ผู้ฟัง เข้าใจว่า เป็นสิ่งที่มีโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แต่พระพุทธเจ้าทรงนำธรรมชาตินั้นมาแยกแล้วมาสั่งสอนอีกที
ท่านอาจารย์ หมายความว่า พระพุทธเจ้าเป็นผู้แสดง
ถ้าสมมติว่า เขาบอกว่า ศาสดาอื่นแสดงธรรม จะถูกหรือจะผิด
ผู้ฟัง ถูกครับ
ท่านอาจารย์ เพราะอะไรถึงว่าถูกคะ
ผู้ฟัง เพราะว่าธรรมเป็นของกลาง เป็นของธรรมชาติ ซึ่งทุกคนมีสิทธิที่จะดึงธรรมชาติตรงนั้นมาใช้ได้
ท่านอาจารย์ บางคนอาจจะบอกว่า คนนั้นแสดงธรรม คนนี้แสดงธรรม หรือศาสนาโน้นแสดงธรรม ศาสนานี้แสดงธรรม แต่ว่าธรรมจริงๆ หมายความถึงสิ่งที่มีอยู่จริงๆ เพราะฉะนั้นใครก็ตามแสดงให้เข้าใจสภาพที่มีอยู่จริงๆ ได้ละเอียด ได้ลึกซึ้ง คนนั้นจึงจะชื่อว่า แสดงธรรม แต่ถ้าเขาเอามาเพียงบางส่วน ไม่ครบถ้วน คนนั้นก็ได้แต่มีความรู้ความเข้าใจเพียงบางส่วน
แต่สำหรับพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พวกเราทุกคนที่อยู่ในประเทศไทยต้องเคยได้ยินว่า เป็นผู้เลิศกว่าบุคคลอื่นทั้งหมด เพียงแต่เรายังไม่ทราบว่า เลิศอย่างไร และเลิศแค่ไหน แต่ตอนเป็นเด็ก เราก็ถูกพ่อแม่สอนให้กราบไหว้ แม้เพียงเป็นเด็กเล็กๆ ก่อนจะนอนให้ไหว้พระเสีย สลิตาเคยไหว้ไหมคะ
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ต้องมีคนหนึ่งซึ่งสูงที่สุด ฉลาดที่สุด เพราะเหตุว่าแม้ว่าสมัยนี้จะไม่มี แล้วผ่านไปแล้วถึง ๒,๕๐๐ กว่าปี แต่พระธรรมที่ทรงแสดง และคนเลื่อมใสนับถือนั้น ยังมีมากมาย และสืบต่อไปเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้นก็ต้องเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากจริงๆ ที่ว่าไม่สูญไป แต่ทีนี้ถ้าเราเป็นคนที่อยู่ในเมืองไทย ได้ยินคำว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระรัตนตรัย โดยที่เราไม่รู้เลยว่า คืออะไร ก็เท่ากับเหมือนคนที่เหมือนรู้แต่ไม่รู้ ซึ่งเราจะยอมเป็นคนอย่างนั้นไหมคะ คือเป็นคนที่เหมือนรู้ แต่ไม่รู้ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะรู้จริงๆ มากกว่าเหมือนรู้ แต่ความจริงพอคนอื่นถาม เราก็ไม่รู้อะไรเลย
เพราะฉะนั้นก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ธรรมเป็นคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งไม่มีใครเทียบได้เลย เวลานี้เราอาจยังไม่รู้ว่า ทำไมถึงกล่าวว่า ไม่มีใครเสมอเหมือน เพราะว่าเรายังไม่ได้ศึกษา แต่เราลองคิดดู พระพุทธเจ้ากับคุณพ่อคุณแม่ ใครฉลาดกว่ากัน ต้องมีเหตุผลด้วยนะคะ ถ้าใครจะตอบ
ผู้ฟัง พระพุทธเจ้าฉลาดกว่า
ท่านอาจารย์ เพราะอะไร ต้องมีเหตุผลทุกอย่าง คนที่ศึกษาธรรมแล้ว ต้องมีเหตุผล ถ้าไม่มีเหตุผล จะไม่เข้าใจธรรมได้เลย
ผู้ฟัง ก็พระพุทธเจ้าตรัสรู้ พ่อแม่ไม่ได้ตรัสรู้
ท่านอาจารย์ คนอื่นจะตอบอีกไหมคะ ลองคิดค่ะ ธรรมนี่ยิ่งคิด ยิ่งเข้าใจ
ผู้ฟัง คิดว่า คุณพ่อคุณแม่ฉลาดกว่า เพราะเลือกให้เราเกิดมา พระพุทธเจ้าไม่ได้เลือกให้เราเกิดมา
ท่านอาจารย์ คุณแม่ไม่ได้เลือกค่ะ
ผู้ฟัง แต่ก็เต็มใจให้เราเกิด แล้วก็สามารถเลี้ยงดู และก็สอนให้เราเชื่อท่านได้ เพราะบางเรื่องเราไม่ใช่พระพุทธเจ้าเสียทีเดียว เรายังไม่ได้ศึกษา แต่อย่างคุณแม่ไม่จำเป็นต้องศึกษา แต่เราเชื่อท่าน
ท่านอาจารย์ แต่ตามความเป็นจริงแม้คุณแม่ก็ยังนับถือพระพุทธเจ้า เราต้องค่อยๆ ไต่ไปตามเหตุผล ความคิดของเราจะถูกจะผิดอย่างไร เราแสดงได้ แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องคิดให้กว้างไกลออกไป
พระมหากษัตริย์กับคุณแม่ ใครฉลาดกว่ากัน แต่จริงๆ แล้วพระมหากษัตริย์ก็ยังต้องนับถือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่ากี่พระองค์ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงสมัยนี้ ก็แสดงว่า ต้องมีบุคคลหนึ่งซึ่งเลิศจริงๆ และเราก็มีโอกาสจะได้ฟังพระธรรม ที่จะเห็นความที่ไม่มีใครเปรียบได้เลยกับพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ว่าขอถามอีกนิดหนึ่งที่ว่า ธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้จะยากหรือจะง่าย ลองคิดดู ต้องใช้ความคิด ต้องพิจารณา แล้วให้เป็นความเข้าใจของเราเอง ไม่ใช่ไปตามใคร แต่เราต้องพิจารณาจนมีความเห็นอย่างนั้นจริงๆ และมีเหตุผลด้วย
เพราะฉะนั้นพระธรรมที่ทรงตรัสรู้ ทรงแสดง ยากหรือง่าย
ผู้ฟัง ยากที่จะปฏิบัติ แต่ถ้าปฏิบัติได้แล้ว ก็จะเป็นสิ่งที่ดีต่อการใช้ชีวิต การเข้าใจความเป็นไปของโลก
ท่านอาจารย์ ปฏิบัติคืออะไร จะปฏิบัตินี่
ผู้ฟัง ปฏิบัติให้อยู่ในวิถีอย่างมีความสุข
ท่านอาจารย์ เวลานี้คำสอนของพระพุทธเจ้ามีแล้วจะปฏิบัติอย่างไร คือ พูดได้ทุกอย่างตามความคิด แต่ว่าต้องมีเหตุผล ถ้าจะปฏิบัติ ก็ต้องรู้ว่า จะปฏิบัติอย่างไร ต้องตั้งต้นฟังแล้วเรียนใช่ไหมคะ ไม่อย่างนั้นจะไม่มีทางนึกออกเลยว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร พ่อแม่สอน เราก็ยังนึกออกว่า สอนให้เป็นคนดี ให้มีความประพฤติดีต่างๆ ครูที่โรงเรียนก็สอนหลายๆ อย่าง แต่ว่าไม่มีใครสอนเหมือนพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
พูดอย่างนี้ถูกหรือผิดคะ ต้องคิด มีใครว่าผิดบ้างไหมคะ
เพราะฉะนั้นต้องนับว่า เป็นบุญ “บุญ” หมายความถึงสิ่งที่ดีงามที่เราได้สร้างไว้สะสมมาแล้ว ที่เรามีโอกาสได้ยินได้ฟังธรรมซึ่งยากแสนยากกว่าจะมีผู้รู้สักพระองค์หนึ่ง ซึ่งใน ๒,๕๐๐ กว่าปี ยังไม่มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกเลยสักพระองค์เดียว ต้องอีกนานแสนนานมากกว่าจะมีการตรัสรู้อีก
เพราะฉะนั้นเราก็เป็นผู้มีโอกาสพิเศษที่ว่า ที่มีโอกาสได้ยินได้ฟังสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้