อะไรดับ สังสารวัฏฏ์จึงดับ
ท่านอาจารย์ อย่างที่พูดถึงจิต เป็นปฏิจจสมุปปาทหรือเปล่าคะ
ผู้ฟัง ก็เป็นตอนที่เป็นวิญญาณ
ท่านอาจารย์ ค่ะ สังขารเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ เพราะฉะนั้นเวลานี้ถ้าเราคิดถึงสภาพชีวิตจริงๆ ตั้งแต่เริ่มขณะแรก คือ ปฏิสนธิจิตเป็นปฏิจจสมุปปาทไหมคะ เป็น เกิดจากอะไร ปฏิสนธิจิตเกิดจากอะไร
ผู้ฟัง กรรม
ท่านอาจารย์ ค่ะ เกิดจากกรรม แต่ว่ากรรมที่เป็นอดีต ใช้คำว่า “สังขาร” เพราะฉะนั้นอวิชชาเป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร สังขารเป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ
เพราะฉะนั้นเวลาที่ปฏิสนธิจิตเกิด ก็ต้องหมายความว่า เกิดเพราะกรรม คือ สังขารในอดีต ปรุงแต่งให้ปฏิสนธิจิตเกิด แล้วสังขารในอดีตก็ต้องมีเพราะความไม่รู้ คือ อวิชชา เพราะว่าอวิชชาเป็นพื้น ที่ใช้คำว่า “สาธารณเหตุ” มีเห-ตุ เห-ตุ เหตุปัจจัย แล้วก็อุดมเหตุ แล้วก็สาธารณเหตุ คือ อวิชชา
นี่ก็ทำให้เราสามารถเข้าใจความจริงได้ โดยที่ไม่ต้องไปจำ หรือยังต้องจำ หรือยังต้องท่อง ที่จริงถ้าฟังเข้าใจจริงๆ แล้วนี่เทปก็มี จะฟังเทปอีกก็ได้ ใช่ไหมคะ แต่เวลาที่ฟัง ย้ำไปอีก ๒ – ๓ ครั้ง ทำให้เราค่อยๆ เข้าใจขึ้นว่ามีเหตุกี่อย่าง ขณะที่ปฏิสนธิจิต มีเหตุเกิดร่วมด้วยหรือเปล่า
ผู้ฟัง มนุษย์มีค่ะ แต่ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ไม่มี
ท่านอาจารย์ อันนี้เป็นเรื่องที่บางทีเรามักจะเผลอ ใช่ไหมคะ บางทีเราฟังแล้ว เข้าใจแล้ว แต่พอถาม เราจะลืมตอนนั้นบ้าง ตอนนี้บ้าง แต่ถ้าเราคิดนิดหนึ่ง เราก็อาจจะนึกออกใช่ไหมคะว่า สำหรับมนุษย์ ปฏิสนธิจิตที่ไม่มีเหตุก็มี
อวิชชาเป็นปัจจัยแก่สังขาร สังขารเป็นปัจจัยแก่วิญญาณ
ถ้าพูดถึงปัจจุบัน ปฏิสนธิจิตก็ต้องหมายความถึงสังขาร คือกรรมในอดีต ซึ่งก็ต้องมีอวิชชาเป็นเหตุให้เกิด
เพราะฉะนั้นอวิชชาในขณะนี้ จะเป็นปัจจัยให้เกิดอะไรคะ และสังขารเป็นปัจจัยให้เกิดอะไร แต่ละช่วงที่เป็นมนุษย์ เราจะไม่ข้าม เราจะแสดงละเอียดตั้งแต่ปฏิสนธิจิต
สภาพธรรมไม่ได้เกิดได้อย่างเดียว ต้องอาศัยกัน และกันเกิดขึ้น อันนี้เข้าใจใช่ไหมคะ ไม่ว่านามธรรมหรือรูปธรรมที่จะเกิดอย่างเดียว ลำพังไม่ได้เลย จิตก็ต้องมีเจตสิกเกิดร่วมด้วย รูปแต่ละรูปก็ต้องมีรูปอื่น เช่น มหาภูตรูปต่างอาศัยซึ่งกัน และกัน และอุปาทายรูปก็อาศัยมหาภูตรูปเกิด
เพราะฉะนั้นเวลาที่โกรธ มีอะไรเกิดร่วมด้วย โทสเจตสิกเกิด มีอะไรเกิดร่วมด้วย มีโมหะเกิดร่วมด้วย และเวลาที่กำลังเรียน กำลังฟังธรรม ขณะนี้กำลังฟังธรรม เป็นกุศลใช่ไหมคะ มีอวิชชาไหม
เพราะฉะนั้นเป็นปกตูปนิสสยปัจจัย ตราบใดที่ยังไม่ดับ เป็นอนุสัยด้วย หมายความว่าเพราะมีอยู่ จึงเป็นปัจจัยให้เกิดการกระทำหรือเจตนาต่างๆ ทั้งที่เป็นกุศล และอกุศล
เพราะฉะนั้นจะต้องดับอะไรคะ สังสารวัฏฏ์ถึงจะไม่มีเลย ต้องดับอวิชชา
เพราะฉะนั้นถึงจะเป็นกุศลอื่นมากมายมหาศาล แต่ยังมีอวิชชาอยู่ ก็ยังต้องเป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร แล้วสังขารก็เป็นปัจจัยให้เกิดวิญญาณ