เบิกบานอยู่บนกองขยะ
สัตว์โลกที่ยังมีกิเลส เบิกบานในกิเลส จริงไหมคะ เมื่อเช้านี้อะไรต่อมิอะไรก็เบิกบานพอใจด้วยกิเลส แต่ถ้ารู้ว่า เหมือนนอนอยู่ในกองขยะทั้งวันทั้งคืน จะลุกขึ้นไหมคะ หรือยังอยู่ต่อไปในกองขยะ ยังไม่สามารถจะพ้นไปได้เลย
เพราะฉะนั้นเวลาที่มีความเข้าใจถูก มีความเห็นถูกตามความเป็นจริง เบิกบานที่ได้ออกจากความเห็นผิด เบิกบานออกจากความติดข้องในสิ่งที่เป็นขยะ
คำว่า “ขยะ” มีในพระไตรปิฎก ไม่ใช่คำที่เราคิดเอง ทุกคำที่เป็นคำจริง และความจริงเป็นคำตรัสของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด แต่อย่าลืม “พุทธะ” ผู้ตื่น ผู้รู้ ผู้เบิกบาน ผู้ละ แต่ว่าเรากำลังติดแล้วติดอีก แล้วก็มีคำที่ชักชวนให้ติดขึ้น ติดขึ้น ติดขึ้น เพราะฉะนั้นไม่ใช่คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่าทรงให้ละความไม่รู้ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความติดข้องคือโลภะ เมื่อมีโลภะ ความติดข้อง ย่อมเป็นเหตุให้เกิดพยาปาท หรือความขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจ เป็นทุกข์ทั้งนั้น และทุกข์ก็มีหลายระดับ ขณะนี้ใครเป็นทุกข์บ้าง มีแน่ๆ กำลังเป็นทุกข์กัน คนละนิดคนละหน่อย แต่ทุกข์จริงๆ ก็คือทุกอย่าง เกิดขึ้นแล้วดับไป เพราะอะไรคะ ทุกข์อื่นแก้ไขได้ทั้งหมด กำลังไม่สบายใจก็มียา หิวน้ำก็มีน้ำ ก็พอแก้ไขไปได้ แต่ทุกข์ที่ไม่มีใครสามารถจะแก้ไขได้เลย คือ การเกิดขึ้น และดับไปเพราะความไม่รู้ทุกขณะ
เพราะฉะนั้นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเปรียบด้วยอุปมาหลายอย่าง แม้แต่แพทย์ผู้รักษาโรค และรักษาโรคที่เป็นทุกข์อย่างยิ่ง คือ โรคกิเลส คนที่มีทรัพย์สินเงินทองมาก มีทุกข์ไหมคะ ทุกข์เพราะอะไร ถ้าไม่มีกิเลส ไม่ทุกข์เลยค่ะ และคนที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย แต่ก็ไม่มีความติดข้อง ไม่เป็นทุกข์ ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ ไม่มีใครจะพ้นจากความทุกข์ได้ แต่ไม่รู้ว่า กำลังเป็นทุกข์ หรือสุขเล็กๆ น้อยๆ บนกองขยะ ไม่ใช่ใหญ่โตมโหฬาร แค่นิดหน่อย เพราะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่ยั่งยืน