โลภะ และมัจฉริยะ เกิดร่วมกันได้หรือไม่
สนทนาธรรมกับชาวกัมพูชา ๕
คุณบุตรสวงษ์ โลภจิต และมัจฉริยะ คือ ความตระหนี่ ธรรมทั้ง ๒ นี้เกิดร่วมกันได้หรือไม่ครับ
ท่านอาจารย์ ไม่ได้เลยค่ะ
คุณบุตรสวงษ์ แต่เหมือนจะได้ ในขณะตระหนี่นี้ก็กำลังติดข้องในสิ่งนั้นด้วยครับ
ท่านอาจารย์ โลภะเป็นสภาพที่ติดข้อง มีความยึดมั่นพอใจในสิ่งที่กำลังปรากฏ เวลาที่เกิดมัจฉริยะ คือ ความตระหนี่ ความหวงแหน ให้ทราบว่า ขณะนั้นเป็นความไม่สบายใจ ขณะที่กำลังตระหนี่ ความรู้สึกเป็นอย่างไรคะ
คุณบุตรสวงษ์ ไม่สบายครับ
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นขณะที่มีความรู้สึกไม่สบายใจ จิตขณะนั้นเป็นจิตประเภทไหน
คุณบุตรสวงษ์ สภาพจิตที่ไม่สบาย เป็นโทสะครับ
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นทรงพระมหากรุณาแสดงให้รู้ โดยเวลาที่พูดถึงจิตแต่ละชนิดต้องมีเวทนากำกับให้รู้ความจริงว่า เวทนาใดจะเกิดกับจิตใดได้ มิฉะนั้นก็จะเข้าใจผิด คิดว่าความตระหนี่เกิดกับโลภะ ที่เป็นอย่างนี้ก็เป็นเพราะเหตุว่าสภาพธรรมเกิดดับสืบต่อกันเร็วมาก จนปรากฏเสมือนว่าพร้อมกัน เช่นในขณะที่เห็นต่างขณะกับขณะที่ได้ยิน แต่ก็เสมือนว่าทั้งเห็นทั้งได้ยินพร้อมๆ กันด้วย
ถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้อง แล้วก็มีการอบรมเจริญปัญญาย่อมขึ้นอยู่กับเหตุ ถ้าเหตุสมควรแก่ผล ผลก็เกิดได้
คุณบุตรสวงษ์ กุศลธรรมมีการส่งสัตว์ไม่ให้ตกไปอบาย แต่ก็เฉพาะอกุศลธรรม และอัพยากตธรรมนี้มีการส่งสัตว์อย่างไรครับ
ท่านอาจารย์ ถ้าเป็นอกุศลกรรมบถครบองค์ก็ทำให้เกิดในอบายภูมิได้
คุณบุตรสวงษ์ แต่ก็
ผู้ฟัง ถามถึงธรรมที่ไม่ให้สัตว์ไปสู่อบายภูมิ
ท่านอาจารย์ ก็ต้องถามว่า ธรรมอยู่ที่ไหน ที่จะทำให้สัตว์ไม่ไปอบายภูมิ ก็เป็นการสับสนระหว่างอกุศลธรรมกับอัพยากตธรรม