ทำอย่างไร เมื่อเสียรู้


    ผู้ฟัง การระงับโทสะหรือความขุ่นใจ คือ มีผู้หนึ่งถูกทำให้เข้าใจผิดในการรับแต่งตั้งตำแหน่ง และมีบุคคลผู้หนึ่งหลอกล่อกีดกันทำให้เข้าใจผิดด้วยการให้ไปรับตำแหน่งหนึ่ง ทำให้เสียโอกาสรับตำแหน่งที่ดี และสูงกว่า คือถ้ารับตำแหน่งนี้แล้วอีกตำแหน่งจะไม่ได้เลย ทำให้เขารู้สึกเสียรู้คน ซึ่งคนนั้นก็ทำงานกันมาตั้งนานหลายปีแล้ว ไม่น่าจะทำอย่างนั้น ความขุ่นใจก็ทำให้เกิดความน้อยใจเสียใจ อย่างนี้จะเจริญเมตตาอย่างไร หรือจะทำอย่างไรให้ความขุ่นใจหรืออกุศลจิตคลายไป

    ท่านอาจารย์ อันนี้คงต้องหลายๆ คนช่วยกันแนะนำ เพราะว่าทุกคนก็มีโทสะทั้งนั้นในหลายรูปแบบ สำหรับดิฉันเอง ถ้าเข้าใจว่า ทุกอย่างต้องมีเหตุปัจจัย คือ กรรม ทุกคนหนีไม่พ้นค่ะ อะไรจะเกิดก็ตามแต่ และถ้ารู้ละเอียดไปยิ่งขึ้นว่า ขณะใดบ้างที่เป็นผลของกรรม ก็จะทำให้เรารู้เลยว่า ไม่มีใครสามารถจะทำอะไรได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกรรม แต่คนอื่นก็คงจะมีคำตอบอื่นๆ ด้วยนะคะ เชิญช่วยกัน ไม่ทราบแค่นี้พอจะหายเสียใจบ้างไหมคะ

    ผู้ฟัง คือคนพวกนี้เขารู้จักคนสามารถติดต่อคนที่สามารถวิ่งเต้นได้ แต่ด้วยความซื่อ เขาก็ไม่ทำ

    ท่านอาจารย์ ทั้งหมดเลย ถ้าอย่างนั้นเริ่มตั้งแต่เกิดดีกว่า ไม่มีใครบงการเลย แม้แต่แรกขณะเกิดก็เป็นผลของกรรมแล้ว ขณะที่เห็นก็เป็นผลของกรรม ขณะที่ได้ยินก็เป็นผลของกรรม ถ้าแยกออกมาละเอียด จะเห็นชัดได้เลยว่า นอกจากกรรมแล้ว แม้ขณะอื่นจะเกิดโลภะ หรือโทสะ ก็มีปัจจัยที่จะเกิดเป็นอย่างนั้น เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติที่จะเป็นอย่างนั้น แต่เพราะมีความเป็นเรา ก็เลยไม่เข้าใจ

    เพราะฉะนั้นก็เมื่อยังมีเราอยู่ ก็มีทุกข์มากๆ หลายกรณี หลายเรื่อง เพียงแต่ไม่ได้ตำแหน่ง กับการที่จะต้องสูญเสียสิ่งที่ใหญ่ยิ่งกว่านั้น จะเลือกเอาอย่างไหนคะ ได้ตำแหน่งมาแล้วสูญหมดทุกอย่าง พ่อแม่พี่น้องไม่เหลือ ตายจากกันไปหมด ทรัพย์สมบัติ วงศาคณาญาติกับการเสียเพียงตำแหน่ง หรือพลาดเพียงตำแหน่ง

    แต่ทีนี้คนเราไม่เคยยอมรับผลของกรรมที่จะเกิดขึ้นในทุกรูปแบบ แต่หวังอยู่ตลอดว่าเราจะมีความสุข เพราะฉะนั้นเวลาที่เรามีความทุกข์ทางหนึ่งทางใดที่เกิดขึ้น ดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งมหาศาล แต่ว่าชั่วขณะแล้วก็หมด กาลเวลาก็ผ่านไป ขณะนี้ก็ต้องมีเหตุปัจจัยให้สภาพธรรมเกิดขึ้นเป็นอย่างอื่นเรื่อยๆ ให้ทราบว่า ทุกอย่างที่เกิด ไม่มีอะไรจะคงที่เลย เกิดแล้วดับหมดไป แล้วก็มีสิ่งใหม่เกิดขึ้น แล้วก็ดับหมดไป ยังมีแต่ความทรงจำซึ่งเราจำอยู่ ก็เฉพาะชาตินี้ชาติเดียวที่เรานึกจำได้ แต่พอถึงชาติหน้า เราก็จำได้ว่า เขาเคยมาล่อหลอกเราให้เสียตำแหน่งหรือเปล่า ก็จำไม่ได้ ชาติก่อนเราอาจจะเคยไปล่อหลอกเขาให้เสียตำแหน่ง แต่เราจำไม่ได้ พอถึงชาตินี้เขาล่อหลอกเรา ก็จะเป็นจะตาย ใช่ไหมคะ

    อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เราจะค่อยๆ พิจารณาหลายๆ อย่าง แล้วเราก็จะเข้าใจเหตุผลยิ่งขึ้นว่า สิ่งใดก็ตามที่เกิด ต้องมีเหตุปัจจัย แล้วก็ลองคิดดู เลือกเอาว่า ถ้าเราเสียแค่นี้กับเราเสียมากกว่านี้

    นี่ก็ยังโชคดีที่เสียเท่านี้เอง และเรื่องของความที่จะไม่ทุกข์ ก็คงจะผ่านไปแล้วที่ว่า ถ้าเชื่อว่าทุกคนมีกรรมเป็นของตน ทุกอย่างที่จะเกิด ถ้าเราไม่เคยทำมาก่อน ก็จะไม่เกิดกับเรา

    ไม่ทราบว่า คุณแก้วเคยสงสารคนที่เขาตกทุกข์ได้ยากบ้างไหมคะ

    ผู้ฟัง ตลอดเวลาค่ะ

    ท่านอาจารย์ สงสารตลอดเวลานะคะ คนที่เขาโกงเรา เขากำลังจะเป็นอย่างนั้น

    ผู้ฟัง ก็เริ่มสงสารเหมือนกัน

    ท่านอาจารย์ อย่างนั้นถูกต้อง หมายความว่าถ้าเริ่มสงสาร ก็จะไม่มีความโกรธ

    ผู้ฟัง สงสารว่า ทำไมถึงอยากมากมายขนาดนั้น น่าเวทนาจริงๆ

    ท่านอาจารย์ และเวลาที่เขาได้ผล จะสงสารจริงๆ เพราะฉะนั้นสงสารตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลย จบเรื่องของเราซึ่งเป็นผลของกรรมเก่า แต่เขาเป็นกรรมใหม่ที่เขาจะต้องได้รับผลอย่างนั้น แต่ถ้าจะเชื่อให้มั่นคงจริงๆ ก็จะต้องศึกษาละเอียดว่า กรรมได้แก่อะไร ในเมื่อสภาพธรรมที่เป็นปรมัตถธรรมมี ๔ จิต เจตสิก รูป นิพพาน เพราะฉะนั้นกรรมได้แก่ปรมัตถ์อะไร


    หมายเลข 8706
    22 ส.ค. 2567