ตามขั้นความเข้าใจของธรรม
อ.นิภัทร มันเป็นปัญญาหนักใจสำหรับผมเอง หรือว่าท่านผู้อื่นอาจจะหนักใจด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบว่า การศึกษาธรรมในเมืองไทย ศึกษาพระอภิธรรม ๙ ปริเฉท เรียนกันอยู่หลายแห่งทั่วไป เรียนนักธรรม เรียนบาลีกัน แต่เสร็จแล้วเวลาไปปฏิบัติกลับไปหาพระที่ท่านนั่งกรรมฐาน อยู่ที่ไหนๆ ให้ท่านสอน ไอ้เรียนมาทั้งหมดใช้ไม่ได้ อย่างนี้ท่านอาจารย์ว่าจะเป็นการศึกษาธรรมหรือเปล่า
ท่านอาจารย์ การศึกษาอย่างที่ว่าเป็นการศึกษาปริยัติ แต่ว่าต้องเข้าใจจุดประสงค์ว่า การที่เราศึกษาปริยัติธรรม ไม่ว่าพระสูตร พระวินัย หรือว่าพระอภิธรรมนั้นเพื่ออะไร ที่สำคัญที่สุดอย่างที่ได้เรียนให้ทราบแล้ว เพื่อเข้าใจในคุณของพระธรรม เมื่อเข้าใจแล้วย่อมมีความเลื่อมใส ความซาบซึ้ง เห็นว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เมื่อเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์แล้ว ก็ประพฤติปฏิบัติตาม ข้อสำคัญที่สุดคือชีวิตประจำวัน ซึ่งก็คือสภาพธรรมที่ไม่ใช่ตัวตน ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ แต่ว่าชีวิตประจำวันของทุกคน ก็มีความเป็นอยู่ที่เป็นทั้งกุศลบ้าง และอกุศลบ้าง
เพราะฉะนั้นแม้ในขั้นที่ยังไม่ถึงสติปัฏฐานก็ตาม เพียงแต่เห็นพระคุณของสุจริตทางกาย ทางวาจา ทางใจ เราก็สามารถจะศึกษาชีวิตของเราเอง ซึ่งเป็นธรรมให้รู้ว่า เราได้เห็นพระคุณจริงๆ หรือเปล่า ถ้าเห็นพระคุณจริงๆ ย่อมมีเหตุปัจจัยที่จะทำให้เราประพฤติปฏิบัติตามในชีวิตประจำวันด้วย ประกอบกันไปทั้งการอบรมเจริญสติปัฏฐานตามขั้นของความเข้าใจธรรม ถ้ายังไม่มีความเข้าใจเรื่องของนามธรรม และรูปธรรมเพียงพอ ก็ยังไม่มีปัจจัยที่จะทำให้สติปัฏฐานระลึกได้ ก็จะต้องอาศัยการฟังเรื่องสภาพธรรม จนกว่าสติจะเริ่มระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรม ประกอบกับการดำเนินชีวิตปกติประจำวันด้วย