เชื่อกรรมและผลของกรรม
ผู้ฟัง เราเชื่อเรื่องกรรม คือในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าเราจะได้รับสิ่งที่ดีหรือไม่ดี เราก็เชื่อว่าอันนี้เป็นผลแห่งกรรมของเราที่เราได้ทำมาในอดีต ไม่ว่าจะเป็นชาตินี้หรือชาติที่ผ่านๆ มา เช่นนี้เป็นความเห็นผิดด้วยหรือไม่
อ.ธีรพันธ์ ต้องมีการศึกษาจึงจะทราบ แล้วก็มีการพิจารณาด้วยเพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นต้องมีเหตุปัจจัยให้เกิดขึ้น ในเมื่อมีกรรมเมื่อสำเร็จแล้ว สามารถที่จะให้ผลได้ เช่นนี้เป็นความเห็นถูก ในพุทธศาสนาธรรมทั้งหลาย ไหลมาแต่เหตุ เป็นการรู้ตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นการเห็นในขณะนี้ก็ดี หรือว่าการได้ยินในขณะนี้ก็ดี ก็มีเหตุปัจจัยให้เกิดขึ้น เนื่องมาจากกรรมเท่านั้นเองที่สามารถจะสำเร็จผลเป็นวิบากให้มีการเห็นในขณะนี้ ได้ยินในขณะนี้ เป็นต้น ก็เป็นการค่อยๆ ศึกษารู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง
ผู้ฟัง ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน มีแต่จิต เจตสิก รูป แต่เรามีความรู้สึกว่าเป็นกรรมของเราในอดีต คำว่า “ของเรา” เราก็ยังยึดมั่นถึงกรรมนั้นว่ามันเป็นของๆ เรา ในความคิด ถ้าพิจารณาจริงๆ ให้ลึกซึ้งก็น่าจะเป็นความเห็นผิด
อ.ธิดารัตน์ ขณะที่เข้าใจเรื่องกรรม และผลของกรรม ขณะนั้นเป็นความเห็นถูก แต่ในขณะที่โลภะยึด และเป็นของเราด้วย ตรงนี้ก็เป็นความเห็นผิด
ผู้ฟัง คำว่า “ทิฏฐิ” ยิ่งโดยเฉพาะมิจฉา กับสัมมาทิฏฐิ ถ้าจะพิจารณาจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ยังสับสนอยู่มาก
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นเวลาที่ใช้คำว่า “กรรม” ไม่ได้กล่าวถึงอะไรเลย นอกจากการกระทำ เพราะฉะนั้นการกระทำเป็นเหตุที่จะให้เกิดผล
ผู้ฟัง เมื่อเราได้ผล มันจะหนักแน่นมากว่ามันเป็นกรรมของเราจริงๆ
ท่านอาจารย์ ขณะที่เข้าใจว่าเพราะได้กระทำกรรมดี สิ่งที่ดีก็เกิดขึ้น ขณะนั้นไม่ผิดใช่ไหม แต่ถ้าถามแล้วใครทำล่ะ ถ้ามีความยึดถือว่าเป็นเราทำ ก็มาแล้ว เพราะฉะนั้นสภาพธรรมก็เป็นแต่ละขณะ แล้วก็เป็นสิ่งซึ่งมีปัจจัยที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเร็วเหมือนฟ้าแลบ
ที่มา ...