ยอดของนมัสการ
อ.อรรณพ ถ้าฟังธรรมแล้วยังผูกโกรธ ไม่ให้อภัย ก็แสดงว่า ยังเป็นผู้ว่ายาก ไม่น้อมไปตามพระธรรมที่จะขัดเกลากิเลสที่หนาแน่นดุจหินดาด แล้วจะเป็นผู้นมัสการพระรัตนตรัยได้หรือ
ดังนั้นการน้อมนมัสการพระรัตนตรัยจริงๆ คืออย่างไร
จากการสนทนาธรรมที่พระวิหารเชตวัน ๑๘ ต.ค. ๒๕๕๔
ท่านอาจารย์ ฟังธรรมทำไม นี่ต้องตรง ถ้าเข้าใจแล้ว เข้าใจทำไม ไม่ใช่หมายความว่า เราตามคำพูดไปโดยไม่ได้ไตร่ตรอง แต่ต้องเป็นเหตุเป็นผลที่สามารถได้รู้ประโยชน์ของการฟัง ฟังธรรมเพื่อเข้าใจธรรม เพื่อละอกุศล อย่าลืมจุดนี้เลยค่ะ ไม่ใช่เพื่อเหตุอื่น
คนที่ฟังธรรม แต่ยังโกรธ ยังไม่ให้อภัย แล้วบารมีอยู่ที่ไหน คิดจะอภัยหรือเปล่า บางคนไม่ยอมบอกเลย เพราะไม่อภัย ใช่ไหมคะ
เพราะฉะนั้น แสดงให้เห็นว่า ความหนาแน่นของอกุศลมากมายเหมือนหินดาด กว่าธรรมจะลงไปถึงเพื่อเป็นดินอ่อนที่ควรแก่การเติบโตได้ก็ยาก แต่ก็ฟังธรรม แต่ขณะเดียวกันอกุศลก็มีกำลัง
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ฟังโดยเข้าใจจริงๆ ในพระมหากรุณาว่า เพื่อให้ผู้ฟังได้เข้าใจถูก เพื่อประโยชน์ของผู้ฟังจริงๆ ไม่มีใครสามารถเอาอกุศลที่มีอยู่ในใจออกได้ นอกจากพระธรรม คือ ความเข้าใจไม่พอ ต้องอบรมบารมีด้วยทุกโอกาส ทุกกาล
พระธรรมให้แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ทั้งนั้น ไม่เคยให้โทษเลยสักคำ และแต่ละก้าวที่เรามาด้วยความเคารพอย่างยิ่งเพื่อนมัสการ แล้วอะไรจะเป็นสิ่งที่เป็นยอดของนมัสการ ดอกไม้ธูปเทียนหรือ หรือความดีที่ไม่เคยคิดว่าจะทำ แต่เมื่อได้ยินได้ฟังพระธรรมแล้ว ก็เห็นบารมีที่พระผู้มีพระภาคทรงอบรมมาเพื่ออนุเคราะห์เรา แล้วเราได้รับหรือเปล่า ที่จะเป็นผู้ว่าง่าย เห็นประโยชน์ มิฉะนั้นแล้วพระพุทธเจ้ากี่พระองค์ก็ผ่านไป แต่ละพระองค์ก็ล้วนเป็นผู้บำเพ็ญบารมีเพื่ออนุเคราะห์สัตว์โลกด้วยพระมหากรุณา แต่จิตของบุคคลนั้นก็ยังคงเป็นอย่างนั้นทุกพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เห็นคุณจริงๆ ก็ไม่คิดแม้แต่ว่า จะนมัสการด้วยการทำความดี ไม่ใช่เพียงเข้าใจธรรมอย่างเดียว และไม่เว้นความดีด้วย ทุกประการที่จะเจริญขึ้นได้ เมื่อพระธรรมสามารถทำให้หินดาดนั้นอ่อนตัวลง