มโนทวารวิถีเกิดได้อย่างไร
ผู้ฟัง อยากจะขอให้ท่านอาจารย์สุจินต์สรุปจากปัญจทวาร ภวังคจิตคั่นหลายขณะ แล้วมามโนทวาร มาได้อย่างไร แล้วมาได้กี่ลักษณะ
ท่านอาจารย์ เวลานีมีมโนทวารเกิดสลับคั่นทั้งตา หู จมูก ลิ้น กาย หมายความว่าเมื่อปัญจทวารวิถีจิตเกิดแล้ว ดับหมดแล้ว รูปดับไปแล้ว ภวังคจิตเกิดคั่นแล้ว มโนทวารวิถีจิตจะเกิดขึ้นรับรู้อารมณ์ต่อ อย่างทางตาที่กำลังเห็นสี เป็นปรมัตถอารมณ์ เป็นรูป ๑๗ ขณะ เมื่อดับแล้วภวังคจิตขณะนั้นก็ไม่ได้รู้ ไม่ได้เห็นทางตา แต่ว่าเพราะการเห็นทางปัญจทวารที่ดับไปนั่นเอง เป็นปัจจัยให้มโนทวาราวัชชนจิตนึกรู้อารมณ์คือสีที่ปรากฏต่อจากทางปัญจทวาร โดยสำหรับมโนทวารวิถี ไม่มีสัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะเลย ไม่มีโวฏฐัพพนะด้วย หลังจากที่มโนทวาราวัชชนวิถีจิตดับ จิตต่อไปก็เป็นชวนวิถีจิต คือเป็นกุศลหรืออกุศลสืบต่อทันที
นี่เป็นความต่างกันของทางปัญจทวาร และมโนทวาร ถ้าทางปัญจทวารแล้วละก็รูปที่ยังไม่ดับเป็นปัจจัยให้ปัญจทวาราวัชชนจิตเกิด ทวิปัญจวิญญาณเกิด สัมปฏิฉันนจิตเกิด สันตีรณจิตเกิด โวฏฐัพพนจิตเกิดแล้วจึงจะเป็นชวนวิถีจิต แล้วก็เป็นตทาลัมพนะ แต่สำหรับทางมโนทวาร เพราะเหตุว่าเป็นการที่รับรู้อารมณ์ต่อจากทางตา หรือทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย เพราะฉะนั้นเมื่อปัญจทวารวิถีดับไปแล้ว ภวังคจิตเกิดคั่นแล้ว มโนทวาราวัชชนจิตนึกถึงอารมณ์นั้น รู้อารมณ์นั้นต่อ แล้วก็ถ้าทางปัญจทวารเป็นโลภมูลจิต มโนทวารก็เป็นโลภมูลจิต ทางปัญจทวารเป็นโทสมูลจิต มโนทวารก็เป็นโทสมูลจิต หรือในทางกลับกัน เราก็จะบอกว่า ถ้าทางมโนทวารเป็นโทสมูลจิต ทางปัญจทวารก็เป็นโทสมูลจิตก็ได้ เพราะเหตุว่าเกิดดับสลับกันเร็วมาก ไม่มีทางที่เมื่อวิถีจิตทางหนึ่งทางใด คือ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกายดับไป แล้วมโนทวารวิถีจิตจะไม่เกิดขึ้นรับรู้อารมณ์นั้นต่อ นอกจากขณะจะจุติ เวลาที่จุติจิตจะเกิด หลังจากที่ปัญจทวารวิถีจิตดับก็ได้ หรือหลังจากมโนทวารวิถีจิตดับก็ได้ หรือว่าหลังจากภวังคจิตดับก็ได้ จุติจิตก็เกิดได้
นี่แสดงให้เห็นถึงการเกิดดับสืบต่อกันอย่างเร็วมาก แต่แม้ว่าทางปัญจทวารวิถีก่อนจุติจิตจะเกิด เมื่อปัญจทวารวิถีจิตนั้นดับ แล้วก็จุติจิตเกิดต่อ ปฏิสนธิจิตก็มีอารมณ์เดียวกับจิตใกล้จุติของชาติก่อนทางปัญจทวารนั่นเอง คือ แทนที่จะเป็นมโนทวารวิถีจิตเกิดรับรู้อารมณ์นั้นต่อ ก็เป็นปฏิสนธิจิตซึ่งรับอารมณ์นั้นต่อ อีกประการหนึ่งแม้ไม่มีปัญจทวารวิถีเกิดก่อน มโนทวารวิถีจิตก็เกิดได้