บุญ-บาป พิจารณาแต่ละขณะจิต
ผู้ฟัง อยากจะทราบว่ากิเลสกับกรรมเกิดขึ้นในขณะจิตเดียวกันที่เป็นอกุศลชวนะ ใช่หรือไม่ ขอเรียนถามท่านอาจารย์สุจินต์
ท่านอาจารย์ ต้องเกิดร่วมกันแน่นอน เพราะเหตุว่าเจตนาเจตสิกเกิดกับจิตทุกดวง เพราะฉะนั้นเวลาที่อกุศลจิตเกิด นอกจากจะมีเจตนาเจตสิกเกิดร่วมด้วยแล้ว ก็ยังต้องมีอกุศลเจตสิกเกิดร่วมด้วย
ผู้ฟัง อันนี้เป็นกรณีของอกุศลกรรม ซึ่งอกุศล คือ กิเลสเป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรม แต่ทีนี้ในกรณีของกุศลกรรม สงสัยว่า กิเลสเป็นเหตุให้กระทำกุศลกรรมได้ยังไง เพราะว่าต้องต่างขณะกันแล้วกุศล กับ อกุศลเกิดร่วมกันไม่ได้แน่
ท่านอาจารย์ สภาพธรรมที่เป็นปัจจัย ต้องทราบว่าเป็นปัจจัยโดยเป็นอดีตปัจจัย หรือ ว่าเป็นปัจจัยโดยเป็นปัจจุบัน อย่างจิตกับเจตสิกที่เกิดร่วมกัน ขณะนั้นเป็นปัจจัยโดยต่างก็เป็นปัจจุบัน เป็นปัจจัยในปัจจุบันกาล คือ เจตสิก ได้แก่ เจตนา สัญญา พวกนี้ที่เกิดกับจิตใด ขณะนั้นก็เป็นปัจจัยซึ่งกัน และกันโดยการเกิดพร้อมกันเป็นปัจจุบัน แต่ถ้าอย่างอดีตกรรมที่ทำไปแล้วเป็นปัจจัยให้เกิดวิบาก กรรมที่ทำไปแล้วไม่ได้มาเกิดร่วมหรือพร้อมกับวิบากจิต แต่ว่าเป็นอดีตปัจจัยที่ทำให้วิบากจิตเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้นเวลาที่จะพูดถึงเรื่องปัจจัยนี้ ก็ต้องทราบว่า ในขณะนั้นกล่าวถึงปัจจัยโดยเป็นปัจจัยที่เป็นอดีต หรือเป็นปัจจัยที่เป็นปัจจุบัน
ผู้ฟัง นั่นก็หมายความว่า ที่ว่ากิเลสเป็นเหตุให้กระทำกรรมนั้น ก็เป็นในขณะเดียวกันก็ได้ หรือว่าต่างขณะกันก็ได้ แล้วแต่ว่าจะเกิดขณะเดียวกันหรือต่างขณะกัน
ท่านอาจารย์ ดิฉันคิดว่า คิดถึงจิตขณะหนึ่งๆ จะเข้าใจ คือว่าขณะหนึ่งที่อกุศลจิตเกิดต้องมีเจตนาเจตสิกเกิดร่วมด้วย แล้วก็ถ้าขณะนั้นเป็นอกุศลจิตที่ทำอกุศลกรรม ขณะนั้นก็ต้องมีเจตนาเจตสิกเกิดร่วมกับอกุศลเจตสิกด้วย เพียงแต่ว่าต่างระดับขั้น
ผู้ฟัง หมายถึงว่ากิเลสนั้น อย่างที่ท่านอาจารย์สมพรพูดเมื่อกี้ว่า เป็น อนุสัย หรือปริยุฏฐานะ หรือว่าเป็นวีติกกมะ ถ้าเมื่อตราบใดที่ยังไม่ล่วงออกมาเป็นทางกาย อกุศลกรรมอันนั้นก็ยังเป็นปริยุฏฐานอยู่ กิเลส และกรรมก็เกิดในขณะจิตเดียวกัน แต่ถ้าล่วงออกมาทางกายเป็นวีติกกมะ อย่างเช่นโกรธแล้วไปทำร้ายสัตว์ ตีสุนัข คนละขณะ ขณะที่โกรธกับขณะที่ตี ขณะที่ตี โกรธด้วย แต่ว่ากระทำกายกรรมคือตีด้วย
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นคิดถึงจิตขณะหนึ่งๆ ว่าจิตขณะนั้นเป็นอกุศลระดับใด
ผู้ฟัง เป็นอกุศลระดับใด ต้องดูที่ระดับของอกุศล
ท่านอาจารย์ ค่ะ