กาลสมบัติ
ผู้ฟัง ทีนี้พอเข้าถึงกาลสมบัติ
ผู้ฟัง อย่างเป็นยุคสมัยหรือกาลเวลาที่ดีก็ตาม แต่ว่าบางคนได้รับวิบากที่ไม่ดี แต่บางคนได้รับวิบากที่ดี ก็รู้สึกว่ามันไม่เสมอ หรือไม่ยุติธรรม ถ้าเป็นกาลที่ดี หรือกาลสมบัติ ทุกคนควรจะได้รับวิบากที่ดีเหมือนกัน อันนี้ก็ยังเป็นที่สงสัย
ท่านอาจารย์ ก็คงจะเป็นส่วนใหญ่กับส่วนย่อย ถ้าส่วนใหญ่ก็คือยุคสมัยรวมๆ อย่างในสมัยของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ต้องเป็นกาลสมบัติ เพราะเหตุว่ามีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระอรหันต์ มีกระอริยบุคคล มีการฟังธรรม มีการปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ ถ้าพูดถึงส่วนใหญ่ แต่ถ้าพูดถึงส่วนย่อย คงเป็นแต่ละบุคคลซึ่งพูดถึงปรมัตถธรรม แล้วแต่ว่าขณะใดซึ่งมีปัจจัยที่จะให้วิบากซึ่งเป็นกุศลเกิด ขณะนั้นต้องเป็นกาลสมบัติสำหรับขณะนั้น มิฉะนั้นแล้วกุศลก็เกิดไม่ได้ เราจะแจกย่อยลงไปว่าแม้แต่ในกาลสมบัติ คนที่ได้รับความทุกข์ก็มี ไม่ใช่มีแต่คนที่ได้รับความสุขเสมอไป หรือว่าในขณะที่สมมติว่า สมัยนี้จะเป็นกาลวิบัติ แต่คนที่ได้รับความสุขก็มีเยอะมีมากทีเดียว เพราะฉะนั้นเราจะใช้อะไรเป็นเครื่องวัดว่า สมัยนี้เป็นกาลสมบัติ หรือว่ากาลวิบัติ ถ้าจะโดยส่วนรวม ทั่วๆ ไปเรา ก็จะกล่าวได้ เอาส่วนใหญ่มาวัดว่านี้เป็นกาลสมบัติหรือว่ากาลวิบัติ แต่ถ้าเฉพาะราย เฉพาะตัว แต่ละบุคคล ก็คงต้องแตกย่อยออกไปอีกมิฉะนั้นแล้วผลของกรรมก็เกิดไม่ได้ ถ้ายุคสมัยนี้เป็นกาลวิบัติ ก็ต้องประสบกันแต่ทุกข์ยากทั้งหมด แต่ว่าบางส่วนบางบุคคลก็ยังมีกุศลวิบากเกิดขึ้น
ผู้ฟัง ก็ตกลงว่าเป็นส่วนรวมกับส่วนย่อย กาลสมบัติหรือกาลวิบัติ