ไม่มีปัญญาจิตประเภทนี้เกิดไม่ได้


    ผู้ฟัง กระผมขอกราบเรียนถามว่า เราทำอย่าไรที่จะให้จิตเกิด คือหมายความว่ารู้จิตขณะที่เกิดนั้น ยกตัวอย่างเช่น ต้องการให้จิตเกิดเป็นอรูปพรหมภูมิ เรามีวิธีว่าเราจะทำอย่างไร หมายความว่าเราต้องบริกรรมก่อนจิตเกิด ไม่ทราบว่า จะเข้าใจผิดหรือไม่ นะครับ

    ท่านอาจารย์ คือเราเริ่มพยายามที่จะเข้าใจจิตซึ่งทุกคนกำลังมี แต่ว่าต้องอาศัยการฟัง แล้วก็เรื่องบริกรรม หรือเรื่องอะไร ก็เป็นเรื่องที่ไกลมาก แล้วโดยศัพท์คงจะมีความหมายอื่นอีก ไม่ใช่อย่างที่เราเข้าใจง่ายๆ แม้แต่รูปาวจรจิตพวกนี้ ต้องอาศัยปัญญาทั้งสิ้น ถ้าไม่มีปัญญาแล้ว จะให้จิตสงบถึงขั้นของมหัคคตะ ยิ่งใหญ่ มั่นคง เป็นรูปาวจรจิต หรือ อรูปาวจรจิต หรือโลกุตตรจิต จิตระดับสูงกว่านี้จะเกิดไม่ได้เลย ถ้าปราศจากปัญญา เพราะว่าในมนุษยภูมิเรามีอกุศลจิตมาก แล้วก็มีกุศลจิตบางครั้งบางขณะ ซึ่งเป็นไปในทาน เป็นไปในศีลบ้าง เป็นไปในการฟังธรรมบ้าง ยังไม่ใช่จิตที่มีความสงบมั่นคงถึงขั้นที่ไม่ใช่กามาวจรจิต แต่เป็นรูปาวจรจิต

    เพราะฉะนั้นให้ทราบว่า จิตเกิดขึ้นทีละ ๑ ขณะ แล้ว ๑ ขณะนี้คืออะไร ชาติไหน ภูมิไหน โดยการฟัง เราตอบได้แล้วว่า จิตของเราจะเกิดกี่ขณะอย่างไรๆ ก็ตาม ก็เป็นกามาวจรจิตนั่นเอง เพราะเหตุว่าจะไม่พ้นจากเห็น แล้วก็ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก ก็วนเวียนอยู่ในเรื่องราวของรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะนี่เอง

    เพราะฉะนั้นยังเป็นกามาวจรจิต แต่ว่าในกามาวจรจิต บางขณะเป็นอกุศลจิต บางขณะเป็นกุศลจิต บางขณะเป็นวิบากจิต บางขณะเป็นกิริยาจิต ซึ่งสำหรับผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์ จะมีกิริยาจิตเพียง ๒ ดวง ก็น่าจำ คือ เป็นเรื่องของเราเอง แล้วก็กุศลจิตเราก็พอรู้ว่า ขณะไหน ให้ทาน รักษาศีล วิรัติทุจริตต่างๆ ฟังธรรม เข้าใจธรรม อกุศลจิตก็รู้ เวลาที่โลภะเกิด โทสะเกิด พวกนี้ วิบากจิต ก็คือ ขณะที่กำลังเห็น กำลังได้ยิน เหล่านี้เป็นผลของกรรม กิริยาจิตเราก็มีเพียง ๒ ขณะ นี่เราก็เข้าใจเรื่องของตัวเราเพิ่มมากขึ้นแล้วในเรื่องระดับของกามาวจรจิต ก่อนจะถึงรูปาวจรจิต และอรูปาวจรจิต และโลกุตตรจิต ซึ่งต้องอาศัยปัญญา กุศลอื่นไม่ต้องอาศัยปัญญาก็เกิดได้ แต่ที่จะถึงรูปาวจรจิต อรูปาวจรจิต โลกกุตตรจิตนั้น ถ้าปราศจากปัญญาแล้วเกิดไม่ได้เลย แต่ว่าเป็นปัญญาต่างระดับขั้น


    หมายเลข 8977
    22 ส.ค. 2567