พระอภิธรรมเหมาะกับทุกคน
ผู้ฟัง ผมได้ยินคนอื่นปรารภตั้งคำถามมาก่อน ก่อนที่ผมจะมาสงสัย สงสัยว่าทำไม เพราะเหตุใดในธรรมหลายๆ เรื่อง พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่ลูกศิษย์หลายๆ คนสอนพระอรหันตสาวกหลายๆ รูป หรือสอนคนเป็นหมู่มาก แต่เรื่องทำไมเรื่องนี้ ท่านสอนมนุษย์ ท่านเลือกสอนตัวต่อตัว เฉพาะท่านสาลีบุตร ทำไมท่านไม่เลือกอรหันตสาวกที่เป็นหมู่มากๆ หรือสาธารณะชนทั่วไป ทำไมท่านสอนคนเดียว เพราะอะไรครับ
ท่านอาจารย์ ที่จริงถ้าเทียบปัญญาของบุคคลในครั้งนั้น กับปัญญาของบุคคลในครั้งนี้จะเห็นว่าต่างกันมากทีเดียว ในสมัยโน้นมีพระอรหันต์มาก มีพระอนาคามี มีพระสกทาคามี มีพระโสดาบันมาก ถ้าท่านเหล่านั้นไม่เข้าใจธรรมที่กำลังปรากฏ ไม่สามารถจะรู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ แต่เพียงได้ฟังพระธรรมสั้นๆ บางท่านที่เป็นอุคฆฏิตัญญูบุคคล รู้แจ้งอริยสัจธรรมได้ และบางท่านก็ต้องฟังมากละเอียดมาก อบรมมาก นานมาก ผู้เป็นเนยยบุคคล ทั้งที่กล่าวมาก แสดงมาก ก็ยังจะต้องอบรมเจริญมาก
นี่แสดงให้ถึงความยากของธรรม เพราะฉะนั้นในครั้งโน้นพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมกับผู้ที่รับฟังแล้วสามารถที่รู้แจ้งอริยสัจธรรมได้เป็นจำนวนมากมายทีเดียว แต่ว่าพระธรรมที่ยังเหลือถึงเรา แม้พระอภิธรรมปิฎกอยู่ในพระสุตตันตปิฎกทั้งหมด เพราะเหตุว่าถ้าจะกล่าวถึงในครั้งแรกของการที่ทำสังคายนา ก็จะเป็นการสังคายนาพระธรรมวินัยเท่านั้น ธรรมก็คืออภิธรรม โดยที่ว่าเป็นธรรมล้วนๆ แต่ว่าท่านสอนกันมาในเรื่องของสภาพธรรมจนกระทั่งถึงครั้งสังคายนา แล้วหลังจากนั้นก็จึงได้จำแนกออกอีกครั้งหนึ่ง ให้เป็น ๓ ปิฎก คือ เฉพาะหัวข้อ หรือธรรมล้วนๆ เป็นพระอภิธรรมปิฎก แต่ว่าผู้ที่ฟังธรรม ถ้าไม่เข้าใจอภิธรรม หรือว่าไม่เข้าใจธรรม ไม่สามารถจะรู้แจ้งสภาพธรรมได้เลย เพราะว่าเป็นเรื่องราวก็มีในพระสูตร เช่นได้ทรงแสดงธรรมกับบุคคลนั้นบุคคลนี้ แต่ว่าผู้ฟังสามารถที่จะแทงตลอดอริยสัจธรรม
นี่แสดงให้เห็นว่า พื้นปัญญาของท่านเหล่านั้นมีมาก ไม่ว่าพระผู้มีพระภาคทรงแสดงอะไร ผู้นั้นเข้าใจธรรม รู้ว่าเป็นธรรม แต่ว่าคนในสมัยนี้ฟังดูเหมือนไม่ใช่อภิธรรมหรือว่าเหมือนไม่ใช่ธรรม เช่น พูดถึงเรื่องโลภะ คนในครั้งนั้นทราบเลยทันที รู้ได้ทันทีว่านั่นคือธรรม ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา แต่คนยุคนี้สมัยนี้ ต้องแสดงว่าเป็นเจตสิก หรือว่าเป็นสภาพธรรมที่เป็นปรมัตถธรรมอะไรต่างๆ
นี่แสดงให้เห็นว่า ระดับขั้นของปัญญาของการฟังธรรมที่อบรมมานั้นต่างกัน ถ้าผู้ที่สามารถที่จะเข้าใจได้ พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรม บรรลุกันเยอะแยะ อย่างนั้นก็สะดวก หมายความว่ามีพื้นปัญญาพร้อมที่จะได้รู้แจ้งอริยสัจธรรม
ผู้ฟัง ถ้าเช่นนั้น ขออนุญาตท่านอาจารย์สรุปนิดหนึ่งว่า อภิธรรมเหมาะสมที่จะเรียนกันเฉพาะผู้ที่มีปัญญาเพียงเท่านั้น หรือว่าเหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญญาน้อยด้วย
ท่านอาจารย์ ทุกคนค่ะ อย่าปิดกั้นตัวเอง เพราะว่าทุกคนจะต้องอบรมเจริญปัญญาขึ้น ถ้าเรารู้ว่า เราไม่มีปัญญา เราควรจะเรียนไหม ถ้าเรามีปัญญาแล้ว อย่างท่านพระอรหันต์ทั้งหลาย หรือแม้แต่ท่านพระอานนท์ ท่านพระสารีบุตร เวลาว่างท่านก็สนทนาธรรม แสดงว่าชีวิตของท่าน ท่านเห็นประโยชน์ หรือคุณค่าของธรรมของพระธรรมมากทีเดียวว่า สิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดคือการที่จะได้เข้าใจธรรม
ผู้ฟัง จะกราบเรียนท่านอาจารย์ว่า ผมสงสัยว่าการศึกษาพระอภิธรรม ตามความเข้าใจของผมคิดว่า น่าจะศึกษาสำหรับบุคคลที่มีปัญญาน้อย เพื่อที่จะมีโอกาสเข้าใจสภาพธรรมที่ยากแล้วก็เข้าใจได้ลึกซึ้งขึ้น ถ้าเราสามารถจะศึกษาพระอภิธรรมเป็นพื้นฐาน รายละเอียดต่างๆ ทีละเล็กละน้อย ให้เข้าใจเรื่องของสภาพธรรมที่รู้ได้ยากขึ้น
ท่านอาจารย์ ที่กล่าวว่าทุกคน หมายความถึงทุกคนที่สนใจ และพร้อมที่จะรับฟังพระธรรม เพราะเหตุว่าถ้าจะไปบอกว่า ทุกคนควรศึกษา แต่คนนั้นไม่เห็นประโยชน์เลย อย่างไรๆ เขาก็ไม่ศึกษา เพราะฉะนั้นผู้ที่จะศึกษาคือผู้ที่มีปัญญาแล้ว แล้วก็เป็นผู้ที่รู้จักตัวเองตามความเป็นจริงด้วยว่า ปัญญาที่มีอยู่นี้ยังไม่พอ นี่สำคัญที่สุด คือถ้าใครคิดว่ามีปัญญาพอแล้ว ไม่มีใครจะเป็นอย่างนั้นได้ พระอรหันต์ไม่มีกิจที่จะต้องทำอีกแล้ว แต่ชีวิตของท่าน ท่านก็ยังสนทนาธรรมกัน
นี่ก็แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของพระธรรม ซึ่งทุกคนควร แต่ว่าเมื่อพูดว่าทุกคนควรไม่ได้หมายความว่าทุกคนทำ แล้วแต่การสะสมของบุคคลนั้นว่า จะมีความสนใจ และจะมีการเห็นประโยชน์ไหม แต่ทั้งหมดของพระพุทธศาสนา คือ ให้ผู้ฟังหรือพุทธศาสนิกชนเกิดปัญญาของตนเอง นี่คือพระมหากรุณาที่ทรงแสดงธรรมเพื่อประโยชน์ของผู้ฟัง คือ เพื่อให้เกิดปัญญาของผู้ฟังเอง แล้วก็ค่อยๆ เจริญขึ้นด้วย
ผู้ฟัง ผมไม่ทราบว่าจะเข้าใจที่ท่านอาจารย์เข้าใจหรือเปล่า ผมรู้สึกว่าท่านอาจารย์อธิบายเมื่อกี้ หมายความว่าถ้าคนไหนสนใจธรรมแล้ว สามารถที่จะทราบพระอภิธรรมได้ ใช่ไหมครับ
ท่านอาจารย์ ที่ถามว่า ควรเรียนพระอภิธรรมไหม ใครควรเรียน ดิฉันก็บอกว่าทุกคนควร เพราะว่าทุกคนไม่รู้ เมื่อไม่รู้ก็ควรจะรู้ ไม่ใช่ว่าทุกคนรู้แล้ว แต่ทุกคนไม่รู้ เมื่อไม่รู้ก็ควรเรียน แล้วคนที่รู้ รู้หมดหรือยังรู้ทั่วหรือยัง จบเป็นพระอรหันต์หรือยัง ถ้ายังไม่เป็นอย่างนั้นก็ต้องเรียนทั้งนั้น ไม่ว่าใคร จะรู้น้อยรู้มากก็ควรจะเรียน แม้แต่พระอรหันต์ท่านก็ยังสนทนาธรรมกัน ก็แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของธรรมที่จะเกื้อกูลต่อไป ไม่ใช่แต่เฉพาะตัวเอง ยังสามารถที่จะเกื้อกูลบุคคลอื่นต่อๆ ไปด้วย