ภูมิของสัตว์เดรัจฉาน
ผู้ฟัง จะเรียนถามนิดว่า สัตว์เดรัจฉาน เขาไม่มีที่เขาอยู่ แต่เขามาอยู่ปนกับเรา ทำไมเขาต้องมาอยู่ปนกับเรา คือ ดิฉันไม่เข้าใจ คือ เขาอยู่ในอบายภูมิ ๔ เราอยู่ในสุคติภูมิ ทำไมสัตว์เดรัจฉานจึงมีอยู่อันนี้ เหตุผลอะไร
อ.สมพร ภูมิของสัตว์เดรัจฉานโดยเฉพาะที่ท่านวินิจฉัยไว้ ไม่มีที่อยู่โดยเฉพาะของสัตว์เดรัจฉานอย่างเดียว แต่อาศัยภูมิของมนุษย์อยู่ แล้วท่านก็วินิจฉัยว่า ที่ใดเป็นที่เกิดของเขา แล้วเป็นที่อยู่ประจำ ที่นั้นก็จัดเป็นภูมิของสัตว์เดรัจฉาน แต่ว่าเพราะว่าสัตว์เดรัจฉานเป็นอบายภูมิ หรือว่าที่อยู่ประจำจริงๆ ของเขาเรียกว่าภูมิของสัตว์เดรัจฉาน
ผู้ฟัง ภูมิมนุษย์เป็นสุคติภูมิ แล้วสัตว์เดรัจฉานเขาอยู่ในอบายภูมิ ทำไมถึงได้มาอยู่ภูมิเดียวกับสุคติ
อ.สมพร เพราะว่าสัตว์เดรัจฉานปฏิสนธิด้วยประเภทอุเบกขาอเหตุกอกุศลวิบาก เป็นประเภทเดียวกับอบายภูมิทั้งหมด จิตประเภทเดียวกันทั้งหมด เปรต นรก อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
ท่านอาจารย์ คุณสุรีย์หมายความถึง โลก คือ โอกาสโลก ใช่ไหมคะ
ผู้ฟัง ใช่คะ
ท่านอาจารย์ ทำไมถึงมี ๒ ภูมิ คือ มนุษย์ ๑
ผู้ฟัง ซ้อนกันอยู่ ทั้งๆ ที่เขาแยกอยู่ในอบายภูมิ
ท่านอาจารย์ จริงๆ แล้วไม่ซ้อน เพราะเหตุว่าภูมิ หมายความถึงระดับขั้น ไม่ได้หมายความถึงโอกาสโลก
ผู้ฟัง ในที่นี้เรากำลังพูดถึงโอกาสโลก ทีนี้โอกาสโลก คือที่อยู่ของสัตว์โลก
ท่านอาจารย์ ของสัตว์โลก
ผู้ฟัง ทีนี้ถ้าเรานึกถึงระดับขั้นของจิต เรานี้จะต้องไปเกิดในสุคติภูมิ
ท่านอาจารย์ มนุษย์
ผู้ฟัง ทีนี้สัตว์เดรัจฉาน เขาจะต้องไปเกิดในทุคติภูมิ
ท่านอาจารย์ ถึงจะเกิดที่ไหนก็ตาม โดยภูมิ โดยระดับขั้นของเขาแล้วเขาเป็นอบายภูมิ เพราะว่าเขาเป็นสัตว์เดรัจฉาน
ผู้ฟัง ระดับขั้นของจิต ใช่ไหมคะ ไม่ใช่โอกาสโลก
ท่านอาจารย์ ไม่นับโอกาสโลก เพราะอย่างที่ท่านอาจารย์บอกว่า สำหรับเดรัจฉานไม่มีภูมิที่เป็นโอกาสโลกโดยเฉพาะ
ผู้ฟัง ทีนี้สำหรับสัตว์เดรัจฉาน ซึ่งเราอาจจะมองไม่เห็น เวลานี้เราก็เห็นแต่อยู่ในภูมิเดียวกับเรา มันจะเป็นไปได้ไหมว่า สัตว์พวกนี้จิตเขาวิจิตร เพราะฉะนั้นเขาจึงเลือกที่เกิด คือหมายความว่า เขามีบาปน้อยกว่าคนอื่น เขาจึงมาเกิดใกล้ตัวมนุษย์ ซึ่งมีระดับขั้นของจิตอีกอันหนึ่ง อันนี้จะเป็นเหตุผลได้ไหมคะ
ท่านอาจารย์ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นของมนุษย์ เทวดาชั้นต่ำที่เป็นภมเทวดาก็มี
ผู้ฟัง แต่เราไม่เห็น ขอบพระคุณ คะ
ผู้ฟัง ทีนี้อบายภูมิ จะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ทุคติภูมิก็ได้ ใช่ไหมคะอาจารย์
สมพร อบายภูมิ มี ๔ ถ้าคติจริงๆ คติมี ๕ อบาย ๔ คติ ๕
ผู้ฟัง ที่ท่านเรียกว่าทุคติภูมิ เห็นมีหลายๆ แห่ง
อ.สมพร ทุคติภูมิ ก็มี ๓ อบายภูมิ ๔ นั่นแหละ จัดออกเป็นคติได้ ๓ อบายภูมิ ๔
ผู้ฟัง คืออะไรคะ
อ.สมพร นรกเป็นคติ ๑ นิรยคติ นรก เปรต อสุรกาย เป็นเปรตคติอันหนึ่ง
ผู้ฟัง นรก เปรต อสุรกายเป็นทุคติ แต่ สัตว์เดรัจฉานไม่เป็นทุคติ
อ.สมพร สัตว์เดรัจฉาน ก็เป็นคติอันหนึ่ง ก็เป็น ๓ แล้ว ทุคติ ๓ ถ้าจัดเป็นทุคติก็เป็น ๓ คติทั้งหมดก็มี ๕ คติเฉยๆ มี ๕ ทุคติมี ๓ สุคติมี ๒ แต่ถ้าจัดเป็นอบายภูมิก็มี ๔ คือ นรก เปรต อสุรกาย และสัตว์เดรัจฉาน ภูมิ ๔ นั่นแหละจัดเป็นคติได้ ๓
ผู้ฟัง ขอบพระคุณคะ
ผู้ฟัง ก็จะแสดงความคิดเห็นหน่อยว่า มนุษย์อยู่รวมกับสัตว์เดรัจฉาน แล้วเท่าที่ทราบก็คือ สัตว์เดรัจฉานจะมีเกิดมากกว่ามนุษย์เสียอีก ตามที่ได้ฟังมา เรามาคิดถึงพื้นที่บนโลก สัตว์เขาใช้พื้นที่ในโลกได้มากกว่ามนุษย์อีก เช่น อย่างบนดิน เขาก็มีอยู่ ในน้ำเขาก็มีอยู่ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่า สัตว์เขาก็มีสิทธิที่จะอยู่ในโลกเท่ากับมนุษย์ เหมือนกัน ไม่ใช่แต่มนุษย์มาอาศัยโลกมนุษย์อยู่ หรืออะไรทำนองนั้น
อันนี้แสดงความคิดเห็นเท่านั้นว่า สัตว์ เขาใช้ที่อยู่ได้หลายทางเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเฉพาะ อย่างเราก็อยู่ได้แต่บนพื้นโลกเท่านั้น แสดงความคิดเห็นแค่นี้
อ.สมพร ก็เรื่องที่อยู่ เรื่องภูมิ ก็อย่างที่ท่านอาจารย์สุจินต์บอก เพราะว่ามันเป็นระดับจิตต่างกัน ถึงจะอยู่รวมกันก็จัดว่า เป็นภูมิเดียวกันไม่ได้ เพราะระดับจิตที่เกิดนั้นต่างกัน
ผู้ฟัง กลับมาพูดถึงทุคติเมื่อสักครู่นี้ เมื่อมีทุคติภูมิแล้วก็ต้องมีสุคติภูมิ ก็อยากจะขอเรียนท่านอาจารย์สมพร กรุณาให้ความหมายแยกศัพท์ ทุคติภูมิ สุคติภูมิ ด้วยค่ะ
อ.สมพร ทุคติภูมิ ทุ ก็แปลว่าชั่ว ทุคติแปลว่า ไปชั่ว ไปชั่วก็หมายความว่าไปในเบื้องต่ำนั่นเอง สุคติก็ไปดี สุ แปลว่าดี
ผู้ฟัง ไปชั่วนี้หมายถึงว่าไปลำบาก อะไรอย่างนั้น ใช่ไหมคะ
อ.สมพร ชั่วก็มีความหมายมากมาย แปลว่าเบื้องต่ำคือลำบากนั่นเอง หมุนเวียนไปในวัฏฏะเบื้องต่ำ
ผู้ฟัง คติ หมายถึงเป็นที่เกิด
อ.สมพร คติ ไป ที่ไป
ผู้ฟัง ไป ที่ไปเกิดของสัตว์
อ.สมพร ที่ไปนั้นเอง ที่ไปเกิดนั้นเอง
ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นถ้าเป็นสุคติภูมิก็เป็นภูมิที่เกิดที่ไปด้วยดี
อ.สมพร ไปดี
ผู้ฟัง ทีนี้เมื่อสักครู่อาจารย์ได้กรุณาชี้ให้เห็นว่า ทุคติภูมินี่มีอยู่ ๓ อบายภูมิ ๔ ก็สรุปเป็นทุคติ ๓ ใช่ไหมคะ
อ.สมพร จัดเป็นคติแล้วได้ ๓
ผู้ฟัง ทีนี้เมื่อพูดถึงภูมิ ๓๑ ภูมิ เอาอบายภูมิมาเป็นทุคติ ๓ แล้วที่เหลืออีก ๒๗ เป็นสุคติภูมิทั้งหมด ใช่ไหมคะ
อ.สมพร สุคติภูมิอีก ๒ เป็น ๕ มนุษยภูมิ ๑ เรียก มนุษยคติ ภูมิที่เหลือเรียกว่าเทวคติ เทวภูมิ ทั้งหมด แม้สวรรค์ ๖ ชั้น พรหม ทั้งหมดเลยเป็นสุคติ
ผู้ฟัง เรียกว่าเทวคติ ใช่ไหมคะ
อ.สมพร ไปดี
ผู้ฟัง ก็รวมแล้วก็จะได้ ๒๗ เพราะว่าเทวคติก็คือพวกรูปพรหมภูมิกับอรูปพรหมภูมิ
อ.สมพร หมดเลย ที่ไปดี
ผู้ฟัง ที่ไปดี รวมกับมนุษย์อีก ๑ ถ้าพูดถึงในแง่ของ ๓๑ ภูมิก็จะเป็น ๒๗ ภูมิ สุคติ
อ.สมพร ก็แยกไปอย่างนั้น
ผู้ฟัง ทีนี้มีสุคติภูมิแล้วท่านก็แยกเป็นกามสุคติภูมิอีก ก็ขอให้อธิบายคำว่ากามสุคติภูมิ
อ.สมพร อันนี้ กาม คำว่ากามบ่งชัดไว้เลย จะต้องประกอบด้วยรูป เสียง กลิ่น รส ถ้ากามภูมิเฉยๆ ก็ต่างจากกามสุคติภูมิ กามแบ่งออกเป็น ๒ กามทุคติภูมิ กามสุคติภูมิ ถ้ากามภูมิเฉยๆ ก็หมายถึงว่า อบายภูมิ ๔ มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖ ถ้ากามภูมิเฉยๆ
ผู้ฟัง แต่ถ้ากามสุคติภูมิก็ ๗ มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖
ทีนี้สำหรับมนุษย์ซึ่งเป็นมนุษยภูมิ ซึ่งเป็นสถานเกิดของมนุษย์ ก็มี ๔ ทวีป เท่าที่ทราบมาจากหนังสือปรมัตถธรรมสังเขป ก็มีปุพพวิเทหทวีป มีอัปรโคยานทวีป มีชมพูทวีป มีอุตรกุรุทวีป ซึ่งทวีปต่างๆ ก็อยู่ในทิศ ทั้ง ๔ ทิศของภูเขาสิเนรุ ทีนี้อยากจะเรียนถามท่านอาจารย์สุจินต์ การที่สถานที่เกิดของมนุษย์ คือ มนุษยภูมิมีถึง ๔ ทวีป แต่ละทวีปก็คงมีความประณีตแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมของกรรม คือ กุศลวิบากที่จะทำหน้าที่ปฏิสนธิเป็นมนุษย์ในทวีปใดทวีปหนึ่ง อย่างนี้ใช่ไหมคะ
ท่านอาจารย์ ก็เป็นมนุษย์ก็คือมนุษย์ จะทวีปไหนก็เหมือนกัน
ผู้ฟัง ใช่ค่ะ แต่หมายถึงว่าจะมีความแตกต่างกันในความประณีต ที่จะ
ท่านอาจารย์ ก็คงไม่มีใครจะไปพิสูจน์ เพราะว่าอะไรๆ ก็อยู่ในตำรา ถ้าใครสนใจเรื่องนี้ก็มี ในปริเฉทที่ ๕ ก็ไปศึกษาได้
ผู้ฟัง ทีนี้สงสัยอีกนิด เกี่ยวกับการที่จะมาปฏิสนธิเป็นมนุษย์ในมนุษยภูมิ ไม่ทราบว่าถ้าทำกุศลกรรมในชมพูทวีปแล้ว กุศลกรรมที่ทำแล้วจะส่งผลให้ไปปฏิสนธิในมนุษยภูมิอื่น แบบข้ามทวีป
ท่านอาจารย์ ไม่มีกล่าวไว้เลย เพราะฉะนั้นคิดไปก็เยอะ แต่จริงๆ แล้วก็คือว่า ถ้าเป็นผลของกุศลแล้ว ก็ทำให้เกิดในสุคติภูมิคือมนุษย์ หรือเทวดา
ผู้ฟัง จะทวีปไหนก็ได้
ท่านอาจารย์ ค่ะ เหมือนกัน คือไม่ใช่อบายภูมิ