ทำไมต้องขอ
ผู้ฟัง ผมขอยกตัวอย่าง จะได้หมดหน้าที่ก็คือว่า คือ เห็นผิดที่ว่า สรงน้ำพระ พุทธสิหิงค์แล้ว กระผมจะมีความเจริญในปีนี้
ท่านอาจารย์ เกิดกุศลจิตด้วยหรือยัง หรือมีแต่โลภะ
ผู้ฟัง มีความอยากที่จะให้ ที่จะให้ได้ แล้วโชคดีได้ไม่มีอันตรายตลอดปีนี้
ท่านอาจารย์ พุทธบริษัทเป็นผู้ที่มั่นคงในกรรม อย่าลืมเลยอันนี้ ตลอดพระไตรปิฎกไม่แสดงเรื่องอื่นเลย ไม่ให้พึ่งสิ่งอื่น แต่ว่าให้มีกรรมของตนเองเป็นที่พึ่ง ถ้าตราบใดที่เรายังไม่มั่นคงในกรรม แสดงให้เห็นว่ามีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเราเห็นผิดไป เพราะฉะนั้นถ้าเรามีความมั่นคงในกรรมจริงๆ เราต้องรู้ว่า อะไรเป็นกรรมที่เป็นเหตุ อะไรเป็นกรรมที่เป็นผล ถ้ากุศลจิตเกิด ผลก็คือกุศลวิบาก ถ้าอกุศลจิตเกิด ผลก็คืออกุศลวิบาก เพราะฉะนั้นถ้าไม่เข้าใจสภาพจิต ก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่า จิตขณะนั้นเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล
เพราะฉะนั้นก็มีแต่คำถามว่า ทำอย่างนี้จะได้บุญไหม ทำอย่างนี้จะเป็นอย่างนั้นไหม แต่จริงๆ แล้วต้องเป็นผู้ที่ไม่ต้องถามใคร แล้วก็รู้สภาพของจิต ต้องเป็นผู้ที่ตรง ความเห็นผิดไม่มีเลยหรือคะ คุณวีระ เวลาที่ไหว้พระแล้วไม่หวังได้ไหมคะ กราบด้วยความนอบน้อมระลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัย เพราะว่าขณะนั้นเป็นกุศลจิต แต่ตอนหวังเป็นอกุศลจิต แล้วเราก็ต้องการสะสมอกุศลจิตหรือคะ
ผู้ฟัง คือตอนไหว้พระ บางครั้งก็หวังครับ
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นต้องแยกจริงๆ ว่า ขณะที่ไหว้ที่ถูกต้อง ที่เป็นกุศลคือไม่หวัง ระลึกถึงพระคุณจริงๆ ไม่ได้ต้องการอะไรเลย เหมือนกับคนที่จะปฏิบัติธรรมหรือคนที่จะศึกษาธรรมก็ตาม ถ้าบอกว่าศึกษาแล้วจะร่ำรวยมหาศาล เอาไหมคะ หรือว่าศึกษาแล้วจะเข้าใจพระธรรม เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ใน ๒ อย่างให้เลือก จะเอาอย่างไหน
ผู้ฟัง ขณะนี้ที่กำลังจะตอบคำถาม ผมก็คิดว่า ผมยังจะศึกษาธรรมแล้วก็อาจจะได้ลูกศิษย์ลูกหามากขึ้น
ท่านอาจารย์ อันนี้ถูกต้องหรือเปล่าคะ เพราะฉะนั้นผู้ที่จะศึกษาพระธรรมได้ผลจริงๆ คือรู้ว่าศึกษาเพื่ออะไร แล้วรู้ว่าพระธรรมคำสอนทั้งหมด เพื่ออย่างเดียว คือเพื่อการละโดยเฉพาะละอะไร สมุทัย ทุกคนคงรู้จักอริยสัจ ๔ ใช่ไหมคะ ทุกขอริยสัจ สภาพธรรมที่เกิดดับ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ทุกขสมุทยอริยสัจจะ โลภะแน่นอน เพราะฉะนั้นแสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้รู้จักโลภะ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่า โลภะเป็นสิ่งที่ควรละ แต่ถ้าเป็นผู้ที่ตรง ต้องตรงตั้งแต่ต้น คือ ตรงคือรู้ว่า พระพุทธศาสนานั้นเพื่อละ ละอะไร ละความไม่รู้ ละความไม่เข้าใจ ละความเห็นผิด นี่เป็นต้นตอที่จะต้องละ ละโลภะซึ่งเกิดร่วมกับความเห็นผิด เพราะฉะนั้นขณะที่ศึกษาธรรม จุดประสงค์คือเพื่อเข้าใจ ไม่ใช่เพื่อร่ำรวย เพื่อมีลูกศิษย์ หรือเพื่อเกียรติยศ หรือเพื่ออะไรเลยสักอย่างเดียว แต่เพื่อเข้าใจ คือละความเห็นผิดความไม่รู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
นี่เป็นจุดประสงค์ที่ถูกต้อง แม้แต่การกราบพระรัตนตรัย หรือทำกุศลใดๆ ทั้งสิ้น กุศลคือกุศล แต่ขณะที่หวังหรือต้องการ ขณะนั้นเป็นโลภะทั้งหมด ซึ่งเป็นสมุทัย ให้ทราบว่าสมุทัยอยู่ที่ไหน คือขณะที่ต้องการ
ผู้ฟัง อาจารย์คะขอเสริมคุณวีระนิดหนึ่ง ที่ว่าศึกษาพระธรรมเพื่อต้องการอย่างโน้นอย่างนี้ ทีนี่สมมติว่า ก็ไม่ได้ศึกษาพระธรรมแต่ก็นับถือพระ นับถือวัด ผ่านวัดยกมือไหว้ เจ้าประคุณขอให้ถูกลอตเตอรี่ที่ ๑ เจ้าประคุณของให้ลูกคนโตหายเจ็บ อันนี้เป็น
ท่านอาจารย์ ก็เป็นอกุศลซิคะ
ผู้ฟัง เป็นทิฏฐิแล้วหรือเปล่า
ท่านอาจารย์ ทิฏฐิต้องประกอบด้วยความเห็นผิด ขณะนั้นมีอกุศลจิตเกิดคือหวังผล
ผู้ฟัง แต่ไม่ใช่ทิฏฐิ
ท่านอาจารย์ ไม่ใช่ความเห็นผิด แต่ถ้ามีความมั่นใจในสิ่งนั้นว่าจะช่วยได้ นั่นคือความเห็นผิด
ผู้ฟัง คนส่วนมากจะมั่นใจ ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่ถวายอะไรพระกันเยอะแยะจนไปไหนต่อไหนได้
ท่านอาจารย์ ไม่ใช่มั่นใจในกุศลหรือคะว่า ถ้าทำกุศลแล้วผลของกุศลมี
ผู้ฟัง ก็มั่นใจ ว่าจะได้
ท่านอาจารย์ ได้แล้วทำไมต้องขอ
ผู้ฟัง คือที่ดิฉันว่ามันเห็นผิด เพราะว่ามันเหตุไม่ตรงกับผล ไหว้พระแป๊บเดียว
แล้วไปขอให้ถูกลอตเตอร์รี้ที่๑ เหตุไม่ตรงกับผลเลย นี้เห็นผิดชัดๆ เลย ถูกไหม
ท่านอาจารย์ หมายความว่าคนนั้นมีอกุศลจิต ถ้ามีความเชื่อมั่นจริงๆ ว่า สิ่งนั้นช่วย ไม่ใช่กุศลของตัวเอง นั่นผิด
ผู้ฟัง แต่ไหว้สิ่งต่างๆ ซึ่งผ่านมา แล้วบอกว่าเจ้าพ่อคุณขอให้ลูกหายเจ็บ ขอให้ถูกล็อตเตอรรีที่ ๑ คือหมายความว่าไปยึดมั่นในสิ่งอื่นซึ่งไม่ใช่กรรมของตัวเอง
ท่านอาจารย์ แล้วไหว้เสร็จแล้วขอเสร็จแล้วถูกหรือเปล่าล็อตเตอรรี่ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าใครแน่ กรรมของตนเองหรือบุคคลอื่น ไหว้เสร็จแล้วขอเสร็จแล้วว่า อย่าให้คนนั้นตาย แล้วคนนั้นตายหรือเปล่า นี่ก็แสดงให้เห็นว่ากรรมของตนเอง หรือว่าสิ่งอื่นบันดาลได้ ไหว้เสร็จแล้วขอเสร็จแล้วขอให้คนนั้นหายเจ็บ แต่คนนั้นก็ไม่หาย แสดงให้เห็นว่า คนนั้นเป็นกรรมของตนเอง หรือว่าสิ่งอื่น มีเครื่องพิสูจน์อยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นต้องตรง การที่จะเข้าถึงธรรมได้จริงๆ ต้องตรง ถ้าไม่ตรงแล้วไม่มีทางถึงอริยสัจแน่นอน เพราะว่าไม่ตรงตั้งแต่ต้น