เพราะมีความไม่สุขุมเป็นปกติ


    ผู้ฟัง เหตุให้เกิดโทสะอีกประการหนึ่งที่ว่า มีความไม่สุขุมเป็นปกติ ก็เข้าใจว่า จะต้องเกี่ยวกับคนที่มักโกรธด้วย ความไม่สุขุมรวมถึงลักษณะของคนใจร้อนวู่วามด้วยหรือเปล่า ท่านอาจารย์คะ ใจร้อนวู่วาม

    ท่านอาจารย์ ก็ไม่สุขุม คือว่าไม่คิดให้ดีๆ พออะไรมากระทบก็เกิดเลย

    ผู้ฟัง ต่างกับคนที่โกรธยาก

    ท่านอาจารย์ ก็โกรธยาก เพราะเขาก็ต้องคิดว่า ไม่น่าจะโกรธคนนั้น เขาอาจจะมีความตั้งใจดี แต่ว่าเขากำลังมีธุระหรืออะไรก็ได้ อย่างบางคนเห็นคนขับรถผิดทางก็โกรธ แต่ถ้าคิดว่าเขาคงมีความจำเป็น เพราะว่าบางครั้งเราก็มีความจำเป็น ที่จำเป็นที่จะต้องทำอย่างนั้นด้วย แต่เวลาที่เราทำ ทำไมเราไม่คิดว่า คนอื่นเขาก็อาจจะมีความจำเป็นอย่างเราก็ได้

    ผู้ฟัง แต่ถ้าเราคิดในแง่นี้ เหมือนกับว่าเราสนับสนุนให้เขาทำผิดกฎจราจร

    ท่านอาจารย์ โดยมากเรามักจะคิดว่าเราสนับสนุนใครก็ตาม แต่ความจริงแล้ว โลกของใครก็โลกของคนนั้นจริงๆ ถ้าไม่พิจารณาให้สุขุมจริงๆ เราอาจจะคิดว่า เพราะเรา แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เขาต้องมีการสะสมในใจเขาที่จะคิดอย่างนั้น แม้ว่าเราอาจจะคิดว่า เรากำลังทำให้คนนั้นโกรธ แต่ความจริงเขาไม่ได้โกรธ เพราะเขาไม่ได้คิดอย่างเราก็ได้ หรือว่าใครก็ตามที่ทำอะไรซึ่งอาจจะผิด แต่เราก็เคยทำอย่างนั้นเหมือนกัน เพราะความจำเป็น เราก็ไม่โกรธเขาก็ได้ เพราะว่าเขากำลังมีความจำเป็นเหลือเกินที่จะต้องทำอย่างนั้น

    ผู้ฟัง แต่ถ้าเห็นเป็นประจำว่าเขาทำอย่างนั้นเป็นอาจิณเลย ไม่ใช่ว่าเพราะความจำเป็นทุกครั้ง อย่างนี้เราอดที่จะโกรธไม่ได้

    ท่านอาจารย์ เพราะเหตุว่าเรารู้มาก ไปรู้อย่างอื่น

    ผู้ฟัง อยู่ด้วยกันก็เห็นด้วยกันว่า เขามีอัธยาศัยเป็นอย่างนี้ ไม่ใช่เพราะความจำเป็น

    ท่านอาจารย์ อันนี้พูดถึงแต่ละกรณี ไม่ใช่ว่าเราจะต้องติดตามไปรู้จักใคร หรือรู้เหตุการณ์อะไรอย่างนั้น แต่ว่ากำลังมีอะไรเผชิญหน้า อย่างคนหนึ่งไปด้วยกันกับเพื่อนแล้วก็เห็นเหตุการณ์อย่างหนึ่ง อีกคนยังไม่ทันพูดอะไรเลย เพื่อนว่าเสียแล้ว ว่าสิ่งที่เห็นรวดเร็วเหลือเกิน เพราะการสะสมมาที่จะไม่พอใจแม้ในสิ่งเล็กน้อย อาจจะเห็นเด็กวัยรุ่นแต่งตัว หรือว่าทำอะไร ผมยาว หรืออะไรก็แล้วแต่ คนนั้นเดือดร้อนมาก แต่ว่าคนที่มีความเข้าใจยุคสมัยของวัยรุ่น ก็จะมีความเข้าใจ และความเห็นใจ จะโกรธทำไม ไม่ใช่เรื่อง อย่างนี้จะเป็นการสนับสนุนวัยรุ่นหรือเปล่า

    ผู้ฟัง อันนี้เป็นกรณีสิทธิส่วนบุคคลของวัยรุ่น เขาจะแต่งอะไรอย่างไร เราก็ไม่ควรจะไปเดือดร้อน ถ้าเขาไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน ไม่ได้ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่บางกรณีเขาทำให้คนรอบข้างเดือดร้อนด้วย

    ท่านอาจารย์ ก็ต้องเป็นแต่ละกรณี แต่ว่าถึงอย่างไรก็ตาม ความไม่โกรธกับความโกรธ อย่างไหนจะดีกว่ากัน นี่คือความสุขุม ที่จะต้องคิด เพราะว่าส่วนมากจะบอกว่า น่าโกรธ ต้องโกรธ เดี๋ยวไม่โกรธแล้วเขาก็จะทำไม่ดี แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น ไม่เกี่ยวกันเลยกับความโกรธของเรา

    ผู้ฟัง ท่านอาจารย์ ทำไมถึงฟังพระสัทธรรมมากแล้ว ยังโกรธบ่อยๆ ได้ จะมีทางแก้ไขอย่างไร

    ท่านอาจารย์ เพราะว่าฟังพระธรรมเพื่อมีพระธรรมเป็นสรณะ ไม่ใช่เพียงฟัง หมายความว่าคนที่ฟังทุกคนต้องพร้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตาม เพราะเหตุว่าการฟังจริงๆ ไม่ใช่ได้ยิน ฟังแล้วพิจารณาว่า สิ่งที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงนั้นเป็นประโยชน์มหาศาล คือว่ามีพระมหากรุณาที่จะชี้คุณ และโทษของธรรมที่เป็นฝ่ายกุศล อกุศลโดยละเอียด ให้เรามีความเข้าใจจริงๆ ว่า สิ่งที่เป็นประโยชน์ในชีวิตนั้นคือความดี เพราะฉะนั้นถ้าเรามีความตั้งใจมั่นคงที่จะประพฤติปฏิบัติตาม ไม่ใช่เพียงฟังเฉยๆ ก็จะค่อยๆ มีพระธรรมเป็นสรณะ ทุกเรื่องอยู่ในใจ เวลาฟังแล้วเราก็ยังเก็บสิ่งนั้นไว้ พร้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตาม ก็จะทำให้เป็นผู้ที่สุขุมขึ้น

    ผู้ฟัง ก็พยายามที่จะฟัง พิจารณา แล้วก็คิดว่าเข้าใจพอสมควร เมื่อตั้งใจฟัง แต่จะมีเหตุอะไรจูงใจให้ประพฤติปฏิบัติตาม คือบางครั้งทั้งๆ ที่เข้าใจ แต่ว่ารู้สึกว่าการประพฤติปฏิบัติตามจะยาก เพราะฉะนั้นจะมีอะไรจูงใจให้ปฏิบัติตาม

    ท่านอาจารย์ จริงๆ แล้ว ถ้าฟังเข้าใจเราอยากปฏิบัติตาม ในทุกกรณี ต้องไม่เว้นเลยจริงๆ ว่า เมื่อฟังพระธรรมแล้วอยากจะปฏิบัติตามในทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทานวัตถุ ไม่ว่าจะเป็นของเล็กของน้อยหรืออะไรก็ตาม ของใช้ ไม่ใช้ มีประโยชน์กับใคร วางไว้หน้าบ้าน หรืออะไรก็แล้ว แต่นี่คือเรื่องของทาน เรื่องของศีลก็ทำให้เรามีความนอบน้อมขึ้น แล้วมีการช่วยเหลือบุคคลอื่นพร้อมที่จะกระทำสิ่งที่ดี ทุกอย่างคิดว่า ถ้าเรามีพระธรรมเป็นสรณะจริงๆ คือพร้อมที่จะประพฤติปฏิบัติตาม ทุกโอกาส เราสามารถที่จะทำได้

    ผู้ฟัง แต่บางครั้งรู้สึกว่าจะขัดกับอัธยาศัยในบางเรื่อง อย่างเช่นเรื่องทาน ทั้งๆ ที่ฟังแล้วเข้าใจว่า ทานดีอย่างไร อะไรอย่างนี้ แต่ว่าบางทีการที่คิดจะช่วยเหลือคนที่เขาตกทุกข์ได้ยากจริงๆ เราขัดกับอัธยาศัยของเรา เราไม่คิดที่จะช่วยทันที ต้องนานกว่าที่จะช่วยเขา การประพฤติปฏิบัติตามมันยาก

    ท่านอาจารย์ ก็ไม่ใช่ว่าฝืน ให้เราเปลี่ยนจากการที่เราเคยให้ยากเป็นให้ง่ายขึ้นทันที แต่สิ่งใดที่มี เราอาจจะระลึกได้ว่าควรให้มากกว่าไม่เคยคิดมาก่อน เพราะว่าของๆ เราคงมีเยอะที่ไม่ได้ใช้ ไม่เป็นประโยชน์สำหรับเรา เพียงแต่เก็บไว้ ถ้าเราไม่มีการนึกขึ้นมาได้เราก็คงจะทิ้งไว้เฉยๆ แต่ถ้าเรามีการนึกขึ้นมาได้ว่า สิ่งนี้จะมีประโยชน์กับคนอื่น แล้วถ้าเราเกิดมาเพื่อที่จะทำความดี ก็คงจะค่อยๆ เป็นไปทีละเล็กทีละน้อย แต่ไม่ใช่ให้ฝืนอุปนิสัยทันที เพราะว่าไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงตัวเองรวดเร็วอย่างนั้นได้

    ผู้ฟัง ก็จะพยายามนึกถึงคำพูดอาจารย์ เกิดมาเพื่อทำความดี ขอบพระคุณคะ


    หมายเลข 9052
    21 ส.ค. 2567