ทำไมโมหมูลจิตไม่มีสสังขาริก


    ผู้ฟัง ทีนี้อีกอันหนึ่งที่อยากจะเรียนถาม ขอเรียนท่านอาจารย์สมพร ซึ่งดิฉันติดใจมามากว่า สำหรับโมหมูลจิต ๒ ดวง อุเบกขาสหคตังวิจิกิจฉาสัมปยุตตัง ท่านว่าอย่างนั้น แล้วอีกดวงหนึ่ง อุเบกขาสหคตังอุทธัจจสัมปยุตตัง ปกติแล้วมันควรจะมี อสังขาริก อะไร สสังขาริกกัง ทำไมโมหมูลจิตจึงไม่มีชักจูงหรือไม่ชักจูง หรือมันชักจูงอยู่แล้ว

    อ.สมพร จิตที่อาศัยโมหะเกิด ๒ ดวง ท่านไม่กล่าวว่า อสังขาริก และ สสังขาริก

    ก็คือ วิจิกิจฉาสัมปยุตจิตที่เกิดพร้อมกับโมหะ ๑ ดวง แล้วก็อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน เกิดพร้อมกับโมหะ ๑ ดวง ๒ ดวงนี้เฉพาะในอภิธัมมัตถสังคหะ ท่านไม่กล่าวว่าเป็น อสังขาริกหรือสสังขาริก แต่ว่าอาจารย์รุ่นหลังเขามาสังเคราะห์กันเอง ว่าเป็นอสังขาริก

    ผู้ฟัง ทำไมถึงได้เป็น เรียนถามท่านอาจารย์สุจินต์ ทำไมถึงเป็นอสังขาริก

    ท่านอาจารย์ สำหรับโลภมูลจิตที่ต่างกันเป็น ๘ เพราะเหตุว่ามีทั้งที่เป็นอสังขาริก และสสังขาริก สำหรับโทสะที่ต่างกันเป็น ๒ ก็เพราะเหตุว่ามีทั้งที่เป็นอสังขาริก และสสังขาริก แต่โมหะนี่ไม่ต่าง

    ผู้ฟัง ทำไมล่ะคะ

    ท่านอาจารย์ ไม่มีค่ะ ไม่มีที่จะแยกออกอย่างโลภะหรือโทสะ แล้วที่สงเคราะห์เป็น อสังขาริก ก็เพราะเหตุว่าไม่มีใครอยากจะให้เกิด ไม่ต้องไปจูงให้เกิด ไม่ต้องไปชักจูงให้เกิดเลย

    ผู้ฟัง เขาเกิดเอง

    ท่านอาจารย์ ค่ะ มีปัจจัยก็เกิด

    ผู้ฟัง อันอื่นก็เหมือนกัน ดิฉันว่านะคะ เขาก็ไม่ต้องไปจูงเหมือนกัน ธรรมทุกอย่างมีเหตุปัจจัยก็เกิดขึ้น

    ท่านอาจารย์ ค่ะ แต่ก็เป็นโลภะที่มีกำลัง กับโลภะที่อ่อนกำลัง

    ผู้ฟัง เข้าใจ หมายความว่าไอ้เจ้าโมหะนี้มันมีกำลังมาก เพราะฉะนั้นไม่ต้องชักจูงมันก็เกิดของเขา

    ท่านอาจารย์ ไม่ใช่มีกำลังมากแบบโลภะกับโทสะ เพราะเหตุว่าไม่ประกอบด้วยโลภะกับโทสะ เพราะฉะนั้นต้องมีกำลังน้อยกว่าโลภมูลจิตกับโทสมูลจิต ถูกไหมคะ แต่ว่าที่กล่าวว่าไม่เป็นสสังขาริก เพราะเหตุว่าไม่ต้องมีการที่จะต้องตรึกตรอง หรือว่าแบบที่ว่าเราต้องคิดลังเลเสียก่อน อย่างโลภะ ต้องการ จะทำดีหรือไม่ดี ทำดีกว่าอะไรอย่างนั้น นั่นไม่ใช่ว่าเกิดทันทีแบบโลภะที่เป็นอสังขาริก ถ้าเป็นสสังขาริกจะมีกำลังอ่อนกว่า แต่ว่าโทสะก็ต่างกัน เช่นเดียวกับโลภะ โดยนัยเดียวกัน ที่มีอสังขาริก ๑ ดวง สสังขาริก ๑ ดวง แต่โมหะไม่ใช่เหมือนทั้ง ๒ อย่าง

    ผู้ฟัง ก็หมายความว่าโมหะมีแต่อสังขาริก ก็คือเขามีกำลังหรือไม่ต้องชักจูง เขาก็เป็นอยู่แล้ว

    ท่านอาจารย์ แต่ไม่อยากจะใช้แบบมีกำลังหรือไม่มีกำลัง เพราะเหตุว่าสำหรับโลภะเราพูดได้ว่า อสังขาริกมีกำลังกว่าสสังขาริก เพราะไม่มีการลังเล ไม่มีการที่จะต้องรีรอ


    หมายเลข 9070
    21 ส.ค. 2567