โสภณต่างกับกุศลอย่างไร
ผู้ฟัง เรียนถามท่านอาจารย์ว่า โสภณ คือดีงาม ใช่ไหมคะ ก็เกิดความสงสัยว่า โสภณกับกุศล โสภณธรรมกับกุศลธรรม ต่างกันอย่างไร
ท่านอาจารย์ เพราะเหตุว่าถ้าใช้คำว่ากุศล หมายความว่าเป็นเหตุที่ดี ซึ่งจะต้องเป็นปัจจัยให้เกิดวิบากซึ่งเป็นผล ไม่ว่าเป็นกามาวจรกุศล ก็จะต้องเป็นเหตุให้เกิดวิบาก ระดับขั้นของกามาวจรจิตฝ่ายที่ดี ถ้าเป็นรูปาวจรกุศล ก็เป็นเหตุให้เกิดรูปาวจรวิบาก ถ้าเป็นอรูปาวจรกุศลกเป็น
็เป็นเหตุให้เกิดอรูปาวจรวิบาก ถ้าเป็นโลกุตตรกุศลก็เป็นปัจจัยให้เกิดโลกุตตรวิบาก เพราะเหตุว่ากุศลต้องเป็นเหตุที่จะให้เกิดวิบาก
ผู้ฟัง แต่โสภณนั้นเป็นวิบากก็ได้ กิริยาก็ได้
ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นจึงใช้คำว่า โสภณเจตสิก เพราะเหตุว่าเจตสิกที่ดีเกิดกับกุศลจิตก็ได้ วิบากจิตก็ได้ กิริยาจิตก็ได้
ผู้ฟัง ถ้าหากเราเรียนเรื่องชาติมาแล้ว เราจำแนกจิตโดยชาติ เพราะฉะนั้นถ้าจะพูดอีกทีก็คือว่า กุศลก็เป็นกุศลชาติเดียว แต่โสภณสามารถจะเป็นกุศลชาติก็ได้ เป็นวิบากชาติก็ได้ เป็นกิริยาชาติก็ได้ อันนี้คือความกว้างของโสภณ ว่าโสภณคุมได้ถึง ๓ ชาติ แต่กุศลนั้นคุมได้ชาติเดียว อันนี้คือข้อแตกต่างข้อที่ ๑ ข้อที่ ๒ คือว่ากุศลชาติเป็นเหตุ แต่โสภณไม่เป็นเหตุ ใช่ไหมคะ
ท่านอาจารย์ เป็นวิบากก็ได้ เป็นกิริยาก็ได้ เป็นเหตุก็ได้ ถ้าเป็นกุศล
ผู้ฟัง เป็นเหตุก็ได้ ถ้าเป็นวิบาก เป็นกุศล คือรวมหมด อันนี้ก็เป็นข้อแตกต่างของโสภณกับกุศล คงไม่มีใครสงสัย
ผู้ฟัง ขออาจารย์พูดอีกทีเกี่ยวกับโสภณกับกุศล หนูยังไม่ชัดเจนเท่าไร
ท่านอาจารย์ คำว่า โสภณ แปลว่า ดี งาม ถ้ากุศลต้องเป็นเหตุให้เกิดผล คือ วิบาก เพราะฉะนั้นโสภณหมายความถึง สภาพธรรมที่เป็นจิต และเจตสิกที่ดีงาม จิตจะดีงามก็ต่อเมื่อประกอบด้วยเจตสิกที่ดีงาม แล้วเจตสิกที่ดีงามเกิดกับจิตที่เป็นกุศลก็ได้ เกิดกับจิตที่เป็นวิบากก็ได้ เกิดกับจิตที่เป็นกิริยาก็ได้ เพราะฉะนั้นคำว่าโสภณกว้างกว่าคำว่ากุศล เพราะคำว่ากุศล เฉพาะจิตที่เป็นเหตุ และเจตสิกที่เป็นเหตุที่เกิดร่วมกัน ที่จะให้เกิดวิบาก