ญาณสัมปยุตคือขณะที่มีความเห็นถูก


    ผู้ฟัง จะเรียนถามท่านอาจารย์สุจินต์ สติเขามักจะคู่กับสัมปชัญญะ แต่ไม่มีสัมปชัญญะก็มีสติได้ ใช่ไหมคะ

    ท่านอาจารย์ ค่ะ ถูกต้องค่ะ

    ผู้ฟัง ทีนี้เมื่อเป็นอย่างนี้ ในขณะซึ่งสติเกิดมันจะเกิดกับทาน ศีล ภาวนา ทีนี้พูดถึงสัมปชัญญะบ้าง สติซึ่งเกิดกับทาน มีลักษณะเป็นญาณวิปปยุตต์ ใช่หรือเปล่า

    ท่านอาจารย์ ต้องทราบว่าสติเป็นโสภณเจตสิก เป็นสภาพที่ระลึก ถ้าขณะนั้นเป็นทานกุศล ก็หมายความว่า สตินั้นระลึกเป็นไปในทาน แล้วแต่จะมีปัญญาเกิดร่วมด้วยหรือไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วย

    ผู้ฟัง ถ้าสมมติว่าคนที่เขาไม่ได้เรียนมาทางพระอภิธรรมเลย แต่ว่าเขาก็ให้ทานด้วยปีติ ใจที่เป็นปีติโสมนัสด้วย นั่นก็คือเขาเกิดกุศลแล้ว แต่เป็นญาณวิปปยุตต์ ใช่หรือเปล่า

    ท่านอาจารย์ ถ้าขณะใดที่ไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วย ภาษาบาลีใช้คำว่า ญาณวิปปยุตต์ เพราะฉะนั้นเราเรียนคำเหมือนกับเราเรียนภาษา เป็นเรื่องราวของภาษา แต่จริงๆ แล้วเราต้องรู้ว่าเป็นสภาพจิต

    ผู้ฟัง ดิฉันเรียนถามอาจารย์อีกนิดหนึ่งว่า ปัญญาที่รู้ว่าเป็นกุศล รู้อย่างไร คือในฐานะที่อาจารย์เองมีประสบการณ์ คือ ดิฉันเองให้ทาน ดิฉันอาจจะนึกไม่ออกว่าปัญญามันคืออยู่ตรงไหน แล้วมันรู้ได้อย่างไร ทีนี้ก็อยากจะให้อาจารย์อธิบายเป็นเรื่องราวให้พวกเราฟังเสียก่อนว่า ขณะที่อาจารย์รู้ว่า เวลานี้มันเกิดกุศล แล้วเกิดปัญญาด้วย รู้ได้อย่างไร

    ท่านอาจารย์ จริงๆ แล้วสภาพธรรมเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เราไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อเลย อันนี้เป็นข้อที่สำคัญ เพราะว่าโดยมากเรามาติดที่ชื่อ พอบอกว่าญาณสัมปยุตต์ เราอยากรู้เหลือเกิน ว่าขณะที่ให้ทานแล้วมีปัญญาเกิดร่วมด้วยจะเป็นอย่างไร หรือว่าขณะที่วิรัติทุจริต มีปัญญาเกิดร่วมด้วยเป็นอย่างไร แต่จริงๆ เป็นเรื่องสงสัยในเมื่อปัญญาไม่เกิด แล้วก็เป็นเรื่องอยากรู้ด้วยว่า เวลาปัญญาเกิด ปัญญาจะเกิดเป็นอย่างไร เราจะต้องทราบว่า จริงๆ แล้ว สภาพธรรมที่ตนขณะนี้ หรือจะขณะไหนก็ตาม เป็นอย่างไร รู้ตามความเป็นจริงอย่างนั้น นั่นคือปัญญา แต่ทีนี้ถ้าไม่ทราบ ถึงผู้ที่ศึกษาพระอภิธรรมแล้ว ก็ไม่ใช่หมายความว่า จะรู้ทุกครั้ง

    เพราะฉะนั้นเป็นผู้ที่ตรง เมื่อศึกษาธรรมก็คือให้ทราบว่า ปัญญานั้นคือความเห็นถูกต้องตามความเป็นจริงของสภาพธรรม แล้วแต่ว่าจะเป็นระดับไหน เช่นระดับที่เห็นว่า ทานมีผล เพราะว่าเป็นกุศล เป็นเหตุที่จะให้วิบากจิตเกิดขึ้นรับผลของกุศลกรรมนี้ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย หรือขณะที่เกิดก็เกิดดี แล้วแต่จะเกิดในสุคติภูมิขั้นมนุษย์ หรือว่าขั้นสวรรค์ก็ตาม

    นี่คือความเห็นถูกระดับหนึ่ง แต่ว่าไม่ใช่ว่า เราอยากจะให้เรามีกุศลจิตที่เป็นญาณสัมปยุตต์ขณะที่กำลังให้ทาน เพราะฉะนั้นการศึกษาธรรมต้องทราบว่า เพื่อรู้ความจริงที่เกิดกับตนตามเหตุตามปัจจัยแต่ละขณะถูกต้องเท่านั้นค่ะ แล้วก็จะได้เป็นการละความอยากหรือความต้องการด้วย

    ผู้ฟัง แต่ความจริงแล้วปัญญาเขาเกิด แต่ว่าคนที่จะเกิดหรือไม่เกิด อันนี้แล้วแต่ว่าคนนั้นจะระลึกรู้หรือเปล่า หรืออย่างไร

    ท่านอาจารย์ จริงๆ แล้วก็ไม่น่าสนใจ คือ เรากำลังเรียนเรื่องของสภาพธรรม แล้วก็เวลานี้สภาพธรรมก็ยังเป็นสภาพธรรมที่ทำกิจการงานอยู่ อย่างในขณะนี้เป็นกุศลจิต กำลังฟังธรรมเป็นกุศลกรรม เพราะเหตุว่าไม่ใช่เพียงได้ยิน แต่มีการกระทำความเข้าใจที่ถูกต้องในขณะที่ได้ยินได้ฟัง เพราะฉะนั้นกำลังฟังธรรมเป็นกุศล ขณะใดที่เข้าใจ ขณะนั้นเป็นกุศลกรรมที่ประกอบด้วยปัญญา นี่ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องพยายามไปรู้ชื่อก่อน แต่ว่าขณะนี้สภาพธรรมเป็นอย่างนี้ แล้วก็เมื่อได้ยินคำว่า ญาณสัมปยุตต์ ภาษาบาลี แต่ภาษาไทย คือ ขณะใดจิตเกิดพร้อมกับปัญญา คือ ความเห็นถูกต้อง ขณะนั้นเป็นคำที่เราใช้คำว่า ญาณสัมปยุตต์ เพราะฉะนั้นให้ทราบจุดประสงค์จริงๆ ศึกษาชื่อ เรื่องราว เพื่อให้รู้สภาพธรรมที่กำลังเป็นอยู่กับตนแต่ละขณะ

    ผู้ฟัง อันนี้อีกอัน ขณะซึ่งยุงกัด ความจริงเราอยากตบ แต่พอเรารู้สึกว่า โอ นี่ชีวิตเขานะ เราหยุด อันนี้ดิฉันรู้สึกว่า อันนี้สติเกิด นี่รู้สึก แต่ตอนให้ ดิฉันไม่ค่อยระลึกว่าอันนั้นคือสติเกิด

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นความจริงคืออย่างไร คืออย่างนั้น ขณะที่คุณสุรีย์ไม่มีการระลึกลักษณะของสภาพธรรม ไม่ใช่สติที่ระลึก ก็ไม่ใช่ คือ เรียนธรรมอย่าไปหวัง อย่าไป คิดบวกลบคูณหาร หรือว่าไปเก็งกำไรข้างหน้าว่า เมื่อเราเรียนแล้วต่อไป เวลาที่เราให้ทาน กุศลญาณสัมปยุตต์จะเกิด หรืออยากให้เกิดมากๆ

    ผู้ฟัง อยากจะทราบ เพื่อจะเป็นในขั้นสุตมยปัญญา คือการฟังตรงนั้น

    ท่านอาจารย์ ขั้นสุตมยปัญญา คือ ขณะใดที่มีความเห็นถูกต้องในสภาพธรรมขณะนั้นเป็นปัญญา

    ผู้ฟัง ขณะที่อยากจะฟัง อยากจะฟังมากเหลือเกิน

    ท่านอาจารย์ ขณะที่อยากจะฟัง แต่ขณะที่มีความเห็นถูกต้อง ต้องไม่ใช่ขณะเดียวกัน ใช่ไหมคะ

    ผู้ฟัง คนละขณะ

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นกำกับได้เลยว่า ขณะใดที่มีความเห็นถูกต้องในสภาพธรรม ขณะนั้นเป็นปัญญา

    ผู้ฟัง ถึงแม้ว่าทางท่านผู้ฟังมานั่งฟังที่นี่พร้อมๆ กันอย่างนี้ด้วยความตั้งใจ อยากจะฟังด้วย ก็ไม่เสมอกันด้วยญาณสัมปยุตต์ และญาณวิปปยุตต์ด้วย

    ท่านอาจารย์ ไม่ใช่ว่ากุศลจิตจะเกิดตลอด แล้วไม่ใช่ว่ากุศลญาณสัมปยุตต์จะเกิดตลอด ขณะใดที่มีความเห็นถูก ขณะนั้นเป็นจิตที่เป็นญาณสัมปยุตต์


    หมายเลข 9082
    21 ส.ค. 2567